เรื่องของผิว ใครว่าง่าย รู้จักดีหรือยัง?
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราก็หย่อนคล้อย ลงไปตามกาลเวลา แถมริ้วรอยที่ตามมาอีกด้วย และหลายคนเอง ก็พยายามป้องกันความแก่กันสุดฤทธิ์ เท่าที่จะทำได้ เรื่องของผิว ใครว่าง่าย ซึ่งบางคนก็หันไปพึ่งเทคโนโลยี เข้าคลินิกกันเดือนละ 3 4 ครั้งไปเลยสิ แต่จริงๆ แล้วเพื่อนๆ สามารถที่จะป้องกัน และต้านความแก่ได้ด้วยตัวเอง และวันนี้ทางเราก็ได้รวบรวม เคล็ดลับหน้าเด็ก ย้อนอายุให้ผิวกลับมาปังอีกครั้ง มาฝาก จะมีอะไรบ้างมารู้จักผิวของตัวเองกันก่อนเลย สภาพผิวของแต่ละคน ที่มีลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ “พันธุกรรม” และ “ไลฟ์สไตล์” การดำเนินชีวิตของแต่ละคน เพราะปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวได้เช่นกัน
วันนี้เรามารู้จักผิวทั้ง 5 ประเภท และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวแต่ละประเภทกัน
- ผิวธรรมดา
- Normal Skin หรือที่หลายๆ คนเข้าใจคือผิวสุขภาพดี ที่น้อยคนมากจะเป็นผิวประเภทนี้เพราะเป็นผิวที่มีความสมดุล ในบริเวณ T-zone อาจมีความมันบ้าง แต่โดยรวมผิวจะมันและมีความชุ่มชื้นที่สมดุลกัน ไม่แห้งตึงจนเกินไป
- ลักษณะของผิวธรรมดา
- ผิวมีความนุ่มเรียบ มีรูขุมขนขนาดเล็กและผิวไม่หมองคล่ำและไม่ค่อยมีปัญหาสิว
- วิธีบำรุงผิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของการให้ความชุ่มชื้น เป็นประจำ ทำความสะอาดด้วยโฟมที่มีค่า pH 5.5 และทาครีมกันแดด อย่างเป็นประจำ
- ผิวประเภทนี้ เหมาะกับการใช้สกินแคร์ เนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ไม่ควรใช้เนื้อครีมที่เข้มข้น หรือบางเบาเกินไป ควรดูแลผิวตามสภาพอากาศ เพื่อไม่ให้ผิวเปลี่ยนแปลง และควรเลือกสกินแคร์ตามสภาพอากาศด้วย เช่น หน้าร้อนเน้นการบำรุงที่สบายผิว ใช้เนื้อน้ำและเจล ส่วนหน้าหนาวให้เน้นความชุ่มชื้น ใช้เนื้อครีมและน้ำมัน
- ผิวแห้ง
- Dry Skin เป็นผิวที่เกิดความมันน้อยกว่า ผิวธรรมดา เกิดจากการขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น
- ลักษณะของผิวแห้ง
- มีความรู้สึกหยาบกร้านและแลดูหมองคล้ำ สามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย ทำให้เกิดแนวโน้มแพ้ง่ายซึ่งเกิดผื่นแดงและรอยแดงที่ผิว ถ้าเจอสภาพอากาศแห้งผิวจะมีอาการตึงหรือผิวแตก อาจมีการอักเสบหรือคันได้ ทำให้ผิวขาดน้ำ มีความยืดหยุ่นน้อย และผิวลอกเป็นขุยง่ายขึ้นอีก
- วิธีบำรุงผิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น เพื่อช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิว และทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH 5.5
- เนื้อสกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ได้แก่ มอยส์เจอไรเซอร์ และเซรั่มออยล์
- ผิวมัน
- Oily Skin เป็นผิวที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้มีรูขุมขนกว้าง และมักเกิดสิวได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่นๆ ซึ่งผิวประเภทนี้จะพบมากในฝั่งสาวเอเชียอย่างเราๆ อีกด้วย
- ลักษณะของผิวมัน
- มีความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ง่าย หลังล้างหน้า 1-2 ชั่วโมง จะรู้สึกหน้าเริ่มมัน เป็นหนักในบริเวณ T-zone และจะมันมากในสภาพอากาศร้อน ทำให้ผิวหน้าแลดูหมองคล่ำและแต่งหน้าไม่ต่อยติด
- วิธีบำรุงผิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ช่วยลดการผลิตน้ำมันได้ ควรเลือกเป็นแบบเนื้อบางเบา เช่น เซรั่ม เพื่อให้ซึมซาบได้ไว ควรทำความสะอาดหน้าอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อขจัดความมันส่วนเกินและป้องกันการสะสมของแบคทีเรียต้นตอของการเกิดสิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องและปลอบประโลมผิว ซึ่งเหมาะกับคนผิวมันเป็นสิวง่าย เพื่อลดปัญหาสิวและ บำรุงผิว เพื่อเติมความชุ่มชื้น
- เนื้อสกินแคร์ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เนื้อครีม และน้ำมัน เพราะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย
- ผิวผสม
- Combination skin ผิวที่ทั้งแห้งและมันผสมกัน เกิดจากการผลิตน้ำมันที่มากเกินไป แต่บริเวณที่ผิวแห้งเกิดจากการขาดน้ำมันและผิวเสียสมดุล
- ลักษณะของผิวผสม
- ผิวที่มันมากบริเวณหน้าผาก จมูก หรือ T-zone จึงทำให้มีโอกาสของการเกิดสิวได้ และส่วนบริเวณรอบดวงตา ข้างแก้ม จะแห้งหรือลอกเป็นขุยได้และรูขุมขนจะขยายใหญ่ขึ้นในบริเวณที่มีสิ่งสกปรกอุดตัน
- วิธีบำรุงผิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เพราะถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมรุนแรงจะทำให้บริเวณผิวที่มัน มีการสร้างความมันเพิ่มขึ้น และในบริเวณที่แห้ง อาจเกิดความหยาบกร้านขึ้นได้เช่นกัน
- เนื้อสกินแคร์ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในบริเวณที่ผิวแห้ง และเนื้อครีมที่มันมากในบริเวณผิวที่มัน
- ผิวบอบบาง
- Sensitive Skin ส่วนใหญ่พบได้มากในผู้ที่มีผิวแห้ง ซึ่งชั้นผิวสามารถมองเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน ผิวประเภทนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะสามารถแพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ ได้ง่าย
- ลักษณะของผิวบอบบาง
- มีการระคายเคืองผิวเมื่อเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มีผื่นขึ้น หรือเกิดรอยแดงบนผิวหน้า อาจเกิดปัญหาผิวหลายอย่างร่วมด้วย เช่น ปัญหาสิว ปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ่า กระ จุดด่างดำ และอาจเกิดอาการคันเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสารกันเสีย
- วิธีบำรุงผิว
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองต่อผิว หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบของแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ
- เนื้อสกินแคร์ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสารกันเสีย
รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา รวมไปถึงผิวของเราด้วย อาหารก็คือส่วนหนึ่ง ที่ส่งผลต่อผิวของเรา แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องผิวพรรณ เราก็ควรเลือกสารอาหารที่ดีต่อผิวโดยเฉพาะ เช่น แครอทและมะเขือเทศ อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ที่จะช่วยซ่อมแซมผิว ของเราให้กลับมาแข็งแรง ลดความหย่อนคล้อย หน้าอมชมพูออกแดดแบบสวยๆ กันไปเลย
สครับผิวหน้าเป็นประจำ
เพราะแต่ละวัน เราต้องเจอมลพิษ และสิ่งสกปรกมากมาย อีกทั้งการทำความสะอาดผิวหน้าของสาวๆ เราจะมั่นใจได้ยังไงว่า เราล้างทำความสะอาดดีแล้วจริงๆ ดังนั้น ต้องไม่ลืมที่จะสครับผิวหน้ากันบ้าง เพื่อที่จะช่วยให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออกไป ทำให้ผิวของเราดูกระจ่างใส ซึ่งหากเพื่อนๆ กำลังมองหาสครับที่ดีๆ เราขอแนะนำให้เลือกสครับสูตรเจล เพื่อความอ่อนโยนและไม่บาดผิวนั่นเอง
ล้างหน้าให้ถูกวิธี
การล้างทำความสะอาดใบหน้า คือ สิ่งสำคัญที่สุดดดดด สำหรับใบหน้าเลย เพราะทุกเช้าเราเล่น ประโคมเครื่องสำอางลงไปแบบจัดเต็ม แถมมลพิษที่เจอแต่ละวันอีก เพราะฉะนั้นการล้างหน้าคือสิ่งที่สาวๆ ไม่ควรละเลย และควรให้ความสำคัญ ซึ่งการล้างหน้าที่ดี ควรเลือกใช้น้ำเย็นมากกว่าน้ำอุ่น และควรเลือกโฟมล้างหน้าให้เหมาะสมกับผิวหน้า
อย่าละเลยการ บำรุงผิว
โดยเฉพาะ การทาครีมกันเดด สิ่งที่ควรทาทุกกกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดก็ตาม เพราะว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอ หรือรังสียูวีจากหลอดไฟ ก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำร้ายผิว เราด้วยเช่นกัน และในส่วนกลางคืนก็บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื่น หรืออาจจะทาไวท์นิ่ง ครีมเพิ่มความไบรท์ให้ใบหน้าเลยก็ได้ จะได้ตื่นเช้ามาพร้อมความปังงง
หลีกเลี่ยงของหวาน
เพราะการรับประทานน้ำตาล ที่มากเกินไป จะส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินที่ช่วยพยุงผิว ถูกทำลาย จนขาดขาดความยืดหยุ่น เเละสร้างปัญหาให้กับสุขภาพผิวได้ แต่การคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้านั้น ไม่ต้องถึงกับงดน้ำตาล หรือของหวานไปอย่างเด็ดขาด เพียงเพื่อนๆ เลือกรับประทานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ด้วยการลดปริมาณน้ำตาลลงเรื่อยๆ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวได้เเล้ว
นอนหลับให้ได้เจ็ดถึงแปดชั่วโมงต่อวัน
หลายคนอาจยังไม่รู้ ว่าการนอนหลับพักผ่อน ไม่เพียงพอนั้น ส่งผลกระทบต่อผิว ทำให้ผิวหน้าเเก่ลงอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อนๆ ควรนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการนอนหลับที่ดี ควรนอนหลับยาว เจ็ดถึงแปดชั่วโมงทุกๆ วัน เพราะจะช่วยให้ผิวมีเวลา อย่างพอเพียงในการซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอนั่นเอง
เรารู้จักผิวของเราดีแค่ไหน จากบทความก็ทำให้เราทราบบ้างแล้วว่า ใบหน้าของเรามีสภาพผิวประมาณไหน เมื่อรู้จักผิวของตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงให้ถูกกับสภาพผิวหน้าด้วย ครีมกันแดด ป้องกันผิวจากรังสี เพื่อขจัดปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่ว่าการบำรุงภายนอกจะทำให้ผิวดีขึ้นมาในทันตาเห็น ต้องดูแลจากภายในควบคู่ไปด้วย
เซรั่ม กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com