ซัมเมอร์ ปองป้องผิว สนุกกับทุกกิจกรรมในหน้าร้อน
ในช่วงซัมเมอร์ที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ ร่างกายจะยิ่งสูญเสียน้ำมากขึ้นหน้าทั้งผิวหน้า ซัมเมอร์ ปองป้องผิว จึงจำเป็นจำเป็นมากนอกจากดูแลผิวจากแสงแดด จะต้องดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าปกติเพื่อชดเชยกับน้ำที่สูญเสียไป ควรดื่มน้ำบริสุทธิ์อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน และไม่ควรให้ผิวพรรณสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เพราะนอกจากจะทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำไม่สวยแล้ว ยังก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย หากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้ง ควรทาครีมกันแดด ใส่หมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด เสื้อแขนยาว หรือถือร่มที่สามารถสะท้อนรังสี UV ได้
วิธีบำรุงผิวหน้าช่วงหน้าร้อน
1 : ทาครีมกันแดด
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยช่วงหน้าร้อนก็คือครีมกันแดดค่ะ แม้ว่าช่วงนี้เราจะอยู่บ้าน แต่ก็ต้องอบ่าลืมทาครีมกันแดด เพราะ รังสี UV นั้นมีอยู่ทุกที่ค่ะ และครีมกันแดดที่ใช้ก็ควรจะเป็นครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreens ที่มี Zinc oxide และ Titanium dioxide ช่วยปกป้องรังสี UVA ซึ่งรังสีชนิดนี้สามารถทำลายผิวหนังได้ถึงชั้นผิวหนังแท้เลยล่ะค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องใช้ครีมกันแดดที่่ช่วยปกป้องรังสี UVA ได้นั่นเอง หรืออาจจะสังเกตง่ายๆจากฉลากส่วนผสมข้างๆหลอด ถ้ามีเขียนแบบนี้ คือเป็นครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreens ค่ะ
- Physical Sunscreens
- Non Chemical Sunscreens
- Zinc oxide
- Titanium dioxide
- Broad-spectrum
- PA+ (การปกป้องแล้วแต่จำนวน +)
2 : ไม่ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หนักเกินไป
ในช่วงอากาศร้อน ผิวหนังของเราจะผลิตน้ำมันออกมามาก บวกกับเหงื่อที่ออกเยอะ ดังนั้นหากทามอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบหนักๆ จะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้าที่มากเกิน นำมาซึ่งการกักเก็บน้ำมัน ทำให้อุดตันรูขุมขน และนำไปสู่การเกิดสิวได้ในที่สุดค่ะ
อีกหนึ่งตัวเลือกคือการใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบ Oil-free หรือเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในรูปของเซรั่ม จะเหมาะกับช่วงอากาศร้อนๆตอนซัมเมอร์มากๆค่ะ อย่างไรก็ตามมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็ควรที่จะบางเบา ไม่อุดตัน และมีความเข้มข้นของน้ำสูงค่ะ
3 : ลดการผลัดเซลล์ผิวลง
แม้ว่าการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกำจัดรูขุมขนที่อุดตัน แถมยังทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น แต่! เราไม่ควรที่จะผลัดเซลล์ผิวโดยใช้ครีมที่มีสารเคมีแรงๆมากเกินไปจนอาจทำให้ผิวบอบบาง และไวต่อแสง เมื่อยิ่งเจอกับแสงแดดจัดๆช่วงหน้า จะยิ่งทำให้ผิวหน้าของเราคล้ำง่าย มีสิวขึ้น หรือเกิดการแพ้ได้ในที่สุดค่ะ
อย่างไรก็ตาม ช่วงซัมเมอร์นั้นก็กินเวลาหลายเดือน ถ้าจะไม่ผลัดเซลล์ผิวเลยก็คงจะไม่ดีต่อผิวเท่าไรนัก ดังนั้น ครีมที่มีส่วนผสมของ Glycolic acid จึงเหมาะสำหรับการผลัดเซลล์ผิวค่ะ และช่วงเวลากลางคืนนั่นเองค่ะ
4 : เน้นครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ในช่วงหน้าร้อน ผิวโดนทำร้ายจากสภาพอากาศที่มีแดดจัด จนอาจทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และแก่ง่ายด้วยค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องใช้ครีมที่มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระค่ะ ซึ่งครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี หรือ โพลีฟีนอล จะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิตามินซีค่ะ เพราะวิตามินซีช่วยปกป้องเม็ดสี ลดริ้วรอยต่างๆ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยค่ะ
5 : ดื่มน้ำเปล่า
นอกจากการทาครีมเพื่อบำรุงผิวหน้าแล้ว การดื่มน้ำก็มีส่วนช่วยเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่เราสูญเสียน้ำไปกับเหงื่อมาก เราจึงต้องทดแทนด้วยการดื่มน้ำให้เยอะๆค่ะ ซึ่งการดื่มน้ำให้เพียงพอในทุกๆวัน จะเป็นการช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และสร้างสมดุลให้กับร่างกายค่ะ ซึ่งน้ำที่ดื่มจะต้องเป็นน้ำเปล่าด้วยนะคะ!
6 : ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
หลายๆคนอาจจะอาบน้ำร้อนจนเคยชิน แถมยังล้างหน้าด้วยน้ำร้อนอีกด้วย ซึ่งรู้มั้ยคะว่า หลังจากที่เราเจอแดดมาทั้งวัน และกลับมาอาบน้ำร้อนอีก จะยิ่งเป็นการทำให้ผิวแห้งค่ะ ดังนั้นในช่วงหน้าร้อนนี้ เราจึงควรอาบน้ำเย็นค่ะ หลังจากที่สูญเสียเหงื่อไปมาก การอาบน้ำเย็นจะช่วยทำให้ผิวใสสะอาดขึ้น แถมยังช่วยลดสิวอีกด้วยนะคะ
7 : ทาลิปบาล์มที่มี SPF
อย่ามัวแต่บำรุงผิวหน้าจนลืมริมฝีปากของเราด้วยล่ะ หนึ่งในสาเหตุของปากคล้ำเสียก็มาจากการโดนแสงแดดนั่นเอง ยิ่งใบหน้าของเราต้องปกป้องแสงแดดมากเท่าไหร่ ริมฝีปากของเราก็เช่นกันค่ะ นอกจากนั้นริมฝีปากยังเป็นหนึ่งในส่วนแรกๆที่แสดงสัญญาณแห่งวัยของอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วย และการโดนแดดนี่แหละค่ะที่ไปกระตุ้นสัญญาณแห่งวัยนั้นได้ ดังนั้นสาวๆควรทาลิปบาล์มที่มีสารป้องกันรังสี UV อย่างน้อย SPF 30 ทุกครั้งด้วยนะคะ
ลองหันมาใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ ครีมกันแดด ดูมั้ย เพราะมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบาที่มาพร้อมกับคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV ที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวสาวในช่วงที่อากาศร้อนชื้นเป็นที่สุด การหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์หลายๆ ชั้นในหน้าร้อนสามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบของผิวหน้า และการเกิดสิวก็จะลดน้อยลงไปด้วย
เปิดวิธีดูแลผิวช่วงหน้าร้อน 3 ข้อที่คุณควรทำ ถ้าไม่อยากให้ผิวไหม้เสีย
ร้อน ร้อน และร้อน!!! แค่ต้นเดือนเมษายนก็อยากจะละลายด้วยอิทธิฤทธิ์ของแดดประเทศไทยบอกตรงๆ ว่าทำให้เราอยากพักร้อนไปเที่ยวเมืองหนาวสักเดือนสองเดือน แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริงกันค่ะซิส อากาศร้อนๆ แดดแรงๆ แบบนี้สาวๆต้องระวังไว้นะคะ ทำอย่างไรไม่ให้ผิวเสีย ผิวไหม้ เรามีเคล็ดลับมาบอก จริงๆก็ไม่ได้ยากอะไร ขอแค่คุณทำอย่างเป็นประจำ เชื่อเราเถอะจะดีเอง…
1. สำคัญมาก ‘ครีมกันแดด’
ข้อแรกสำคัญสุดๆ ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าหรือไม่ หรือครีมบำรุงผิวที่คุณทาจะผสมครีมกันแดดไว้อยู่แล้วก็ตาม แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นก่อนออกจากบ้านทาเลยจ้าครีมกันแดด ทั้งหน้าและตัว และถ้าจะให้ดีต้องเป็นกันแดดที่มีค่า SPF หรือ Sun Protection Factor ค่าเหล่านี้คือ ตัวกำหนดเวลาที่ผิวสามารถเผชิญกับรังสี UVB ได้ จะ SPF สูงเท่าไหร่ก็แล้วแต่เลยตั้งแต่ 30 – 80 แต่ถ้าจะให้โอต้อง มี PA+++ ด้วยนะจ๊ะ
2.อย่าให้ร่างกายขาด ‘น้ำ’
อากาศร้อนๆ ในเดือนเมษายนแบบนี้ สิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องดื่มน้ำมากๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียหยาดเหงื่อ นอกจากนั้นการดื่มน้ำบ่อยๆจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวของคุณอีกด้วย เรียกได้ว่าแค่ดื่มน้ำแต่คุณประโยชน์นั้นมีมากกว่าที่คุณคิดซะอีก
3. กันไว้ดีกว่าแก้! หลีกเลี่ยงแสงแดดไปเลยจ้า
ข้อนี้ใครทำได้ควรทำ หลบแดดเลยค่ะซิส หรือจะพกร่มกันแดด ใส่เสื้อแขนยาว ใส่หมวกเราก็ไม่ว่ากัน กันไว้ดีกว่าแก้ที่หลังถ้าผิวไหม้ขึ้นมารักษาไม่ได้ง่ายๆ นะเออ
เตรียมตัวรับซัมเมอร์ให้พร้อม 🏖️🌤️ และเลือกกันแดดที่ใช่ติดตัว
กันแดดที่ดีต่อผิวเรา และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ครีมกันแดด เนื้อเซรั่ม บางเบา ป้องกันรังสี UVA/UVB และฝุ่น PM 2.5
คุมมัน กันน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้ได้ทุกสภาพผิว
🍉 Sunset Party กลิ่นหอมหวานละมุน
🥥 Tropical Breeze กลิ่นหอมหวานนุ่มนวล
🌈 Summer Fresh กลิ่นหอมเย็นสดชื่น
🍍 Juicy Aloha กลิ่นหอมฉ่ำสดชื่น
การเลือก ครีมกันแดด สำหรับรับร้อน รับสงกรานต์ ควรเลือกที่เนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ แต่มีประสิทธิภาพสูง โดยดูฉลากที่ระบุทั้งค่า เอสพีเอฟ (Sun Protection Factor) และ ค่าพีเอ (Protection Factor of UVA) ในระดับสูง เช่น ” SPF 50 / PA+++” จะช่วยป้องกันได้ครบทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ทั้งนี้ ยังต้องเป็นชนิดที่กันน้ำ ทนกับเหงื่อไคล เหมาะกับกีฬาทางน้ำ หรือเล่นสาดน้ำสงกรานต์ โดยมีระบุที่ฉลากว่า “Very Water Resistant” ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดที่กันน้ำได้สูงสุด แม้สัมผัสน้ำก็ยังป้องกันยูวีได้ตามค่า “เอสพีเอฟ” ที่ระบุไว้นานถึง 80 นาที ส่วนชนิดกันน้ำทั่วไป “Water Resistant” จะให้การปกป้องภายหลังสัมผัสน้ำได้เพียง 40 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ควร
วิธีป้องกัน โควิด ถึงตอนนี้จะมีประกาศให้สามารถกลับมาเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ได้แล้วแต่การ์ดอย่าตกน้า หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง จัดกิจกรรมตามประเพณีได้ เล่นน้ำแบบ “ประพรม” แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting เพื่อความปลอดภัยนะค่ะ
