Natural VS Organic แตกต่างกันยังไง หันมาใส่ใจมากขึ้น
ปัจจุบัน กระแสการตระหนักทางสิ่งแวดล้อม กำลังมาแรงแซงทางโค้ง ทำให้หลายคนหันมาใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเทรนด์ cruelty free หนังสั้น “Save Ralph” แคมเปญรณรงค์ยกเลิกการใช้เครื่องสำอาง ทดลองกับสัตว์ ซึ่งไวรัลทางโซเชียลมีเดีย ไปเมื่อช่วงต้นปี แน่นอนว่าความปลอดภัย ในเครื่องสำอาง ไร้สารเคมีก็ยังคงเป็นหนึ่ง ในสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ Natural VS Organic เนื่องจากชีวิตประจำวันก็มีความเสี่ยงจะได้รับสารพิษ จากมลภาวะทางอากาศ หรือแม้แต่จากน้ำและอาหารที่เราทาน เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสกับสารพิษเหล่านั้นจึงทำให้กระแสออร์แกนิกยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องและดูท่าว่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตเรื่อยๆ อีกด้วย
ในยุคที่ผู้คนเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ บำรุงผิว ก็ด้วยเช่นกัน ออร์แกนิก เหล่าผู้ผลิตจึงคว้าโอกาสนี้ในการปล่อยผลิตภัณฑ์มากมายออกสู่ท้องตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แปะป้ายว่าเนเชอรัลตัวโตลงบนสินค้าสร้างความสับสนให้กับชาวสายเขียวต้องมาถกเถียงกันว่า ‘เนเชอรัลเท่ากับออร์แกนิกหรือไม่’ ขยายคำนิยามออร์แกนิกและไขข้อสงสัยให้ได้รู้ถึงความแตกต่างกัน
Natural
สารสกัดจากธรรมชาตินั้นจะต้องได้มาจากธรรมชาติ (Natural) เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันหอมระเหย หรือสารสกัดจากธรรมชาตินั้นจะต้องมีต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ แต่อาจมีการกระบวนดัดแปลงแต่ยังคงคุณค่าทางธรรมชาติอยู่ ซึ่งในส่วนของผลผลิตที่ได้จาก Natural จะไม่ได้มีการรับรอง 100% ว่าไม่มีการใช้สารเคมี
- ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ( Natural product )
หากพูดคำนี้ออกมาแน่นอนว่าหลายๆ คนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ถ้าเราไปเดินห้างสรรพสินค้าก็มักจะเห็นคำว่าเนเชอรัลปรากฎอยู่บนสินค้ามากมาย เนเชอรัลนั้นเป็นส่วนผสมที่ได้มาจากธรรมชาติโดยมักจะมาจากพืชที่ไม่ผ่านการเพาะปลูกแบบออร์แกนิค ผ่านกระบวนการทางเคมีให้น้อยที่สุดและยังคงคุณค่าทางธรรมชาติอยู่
ต้องเล่าก่อนว่าการเคลมเนเชอรัลนั้นไม่ได้ถูกควบคุมทางกฎหมายจากหน่วยงานใด ดังนั้นหากในผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมจากธรรมชาติรวมถึงมีส่วนผสมอื่นซึ่งไม่ได้มาจากธรรมชาติประกอบรวมอยู่ด้วยก็สามารถเคลมว่าเนเชอรัลได้ ทำให้นี่กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางของเหล่าผู้ผลิตหัวใสในการเลือกแปะคำว่าเนเชอรัลไว้บนผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดความสนใจจากเหล่าลูกค้า
Organic
การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100 % (Chemical – free) ในทางการเกษตร คือ เริ่มตั้งแต่ลงดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ การเลี้ยงสัตว์ จะอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตราฐานของ USDA
- ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ( Organic product )
ออร์แกนิก จะอยู่ภายใต้การควบคุม ทุกขั้นตอนผลิต เริ่มตั้งแต่ ขั้นต้นของการเตรียมดิน การเพาะปลูก โดยปราศจากยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ยเคมีจากฟาร์ม ปราศจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม การแปรรูปโดยไร้สารเคมี และมีรายละเอียดยิบย่อย แถมยังเข้มงวดมากๆ อธิบายอย่างง่ายๆ ว่าเป็นการปลูกพืชบนผืนดินบริสุทธิ์ และควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตจนกว่าจะถึงมือของผู้บริโภค
การแบ่งเกณฑ์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
- 100%ออร์แกนิก
ส่วนผสมทั้งหมด ต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน
- Organic
95 % ของส่วนผสมผ่านการรับรองมาตรฐาน อีก 5% เป็นส่วนผสมที่อนุญาตให้ใช้ได้จาก National listเท่านั้น
- Made with Organic
ส่วนผสมอย่างน้อย 70 % ต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน
- Specific Organic ingredients list
มีส่วนผสมน้อยกว่า 70 % ผ่านการรับรองมาตรฐาน ไม่สามารถเคลมว่าออร์แกนิกได้แต่สามารถระบุได้ว่าส่วนผสมใดเป็นออร์แกนิกและต้องใส่ % กำกับ
การเลือกใช้สินค้าออร์แกนิก
ทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยในการลดสารพิษตกค้างในร่างกาย ยาสีฟัน สปาร์คเคิล เนเชอรัล เฟรชแอนด์กัม แคร์ ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของดอก Calendula ออร์แกนิก แร่ธาตุ และ พืชสมุนไพรที่ดีต่อเหงือก และฟันหลายปีที่ผ่านมา กระแสรักสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะคนปัจจุบัน มีภาวะความเสี่ยงในการเป็นโรคมากมาย โดยมีสาเหตุอันเนื่องมาจาก มลภาวะ สิ่งแวดล้อม อาหาร สารเคมี ภาวะความเครียด ตัวกระตุ้นเหล่านี้ ล้วนมีส่วนในการทำลายสุขภาพของเรา
เมื่อเริ่มตระหนักว่าร่างกายนั้นสำคัญ กระเเสการเลือกวัตถุดิบ และ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยวิถีธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า ผลิตภัณฑ์ Organic (ออร์แกนิก) จึงเข้ามามีบทบาท และเป็นทางเลือกนึง ของคนในยุคปัจจุบัน
Organic (ออร์แกนิก) คือ?
การเกษตรอินทรีย์, อาหาร และ สินค้าที่เกิดจาก ฟาร์ม หรือ แหล่งผลิต ที่มีระบบการผลิต ที่ไม่พึ่งพาการใช้สารเคมี ฮอร์โมน หรือปุ๋ยเคมีใดๆ
- ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
ไม่เพียงแต่ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และ อาหาร ที่เป็นถูกผลิตขึ้นในรูปแบบเกษตรอินทรีย์เท่านั้น ในปัจจุบัน สินค้า และผลิตภัณฑ์ที่ทำจาก ผัก ผลไม้ และสมุนไพรออร์แกนิค ก็เป็นอีกทางเลือกนึง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องใช้ต่างๆ ที่ต้องสัมผัสกับร่างกายเรา ก็เริ่มออกสูตร ออร์แกนิก มาให้เลือกซื้อ เลือกใช้กันอย่างมากมาย ซึ่งในกระบวนการผลิตสินค้าแบบออร์แกนิคนั้น โดยมากเลือกจะใช้วัตถุดิบที่เป็น พืช ผัก สมุนไพร ที่ผลิตแบบเกษตรอินทรีย์มาเป็นส่วนผสม
เมื่อสิ่งต่างๆ รวบตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ มีผลกับร่างกายเรา การรับประทานหรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในวิถีตามธรรมชาติ ก็เป็นทางเลือกนึงที่มีส่วนช่วยลดการใช้สารเคมีลง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ยังมีส่วนช่วยลดสารพิษตกค้างในร่างกาย ซึ่งสารพิษตกค้างเหล่านี้นี่เอง ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรค ของคนในยุคปัจจุบัน
- ทำไมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ( Organic product ) ถึงราคาสูง?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมผลิตภัณฑ์ จากออร์แกนิกเนี่ยราคามันถึงแพงได้ขนาดนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าการเคลมออร์แกนิกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายและมีต้นทุนที่สูงมากกก อีกทั้งส่วนผสมทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ยังต้องผ่านกฏเกณฑ์มากมายตามมาตรฐาน ( National Organic Program – NOP ) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา ( United States Department of Agriculture – USDA ) จึงจะได้เครื่องหมายรับรอง Certified organic ออกมา ทำให้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมักมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปนั่นเอง ตัวอย่างเครื่องหมายรับรอง เช่น USDA Organic, ECOCERT Cosmos Organic
ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ( Organic product ) ดียังไง
แล้วออร์แกนิกนี่มันดีตรงไหน แพงหูฉีก คุ้มค่ากับที่ต้องจ่ายยังไงล่ะ อะๆ ใจเย็นๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมาดูข้อดีกัน
ข้อดี
- มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ บำรุงผิว ที่เราจะนำมาใช้นั้น ไม่ผ่านการทดลองกับสัตว์ จะไม่มีน้องๆตัวไหนต้องเสียสละชีวิตเพื่อความต้องการอันแสนจะสิ้นเปลืองของมวลมนุษย์อย่างแน่นอน
- ไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีจึงมีโอกาสน้อยที่จะเกิดการแพ้หรือระคายเคือง
- ส่วนผสมผ่านการรับรองด้วยมาตรฐานอันเข้มงวดจึงทำให้ผู้บริโภคสามารถวางใจในเรื่องความปลอดภัยได้
Organic การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100 % (Chemical – free) ในทางการเกษตร คือ เริ่มตั้งแต่ลงดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ การเลี้ยงสัตว์ จะอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตราฐานของ USDA
Natural มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก นำส่วนผสมจากธรรมชาติไปดัดแปลงแต่ยังคงคุณค่าทางธรรมชาติอยู่ ซึ่งในส่วนของผลผลิตที่ได้จาก Natural ไม่ได้มีการรับรอง 100 % ว่าไม่มีการใช้สารเคมี
♡♡♡♡♡
เป็นยังไงกันบ้าง ตอนนี้เข้าใจความแตกต่างระหว่างเนเชอรัลและออร์แกนิกกันมากขึ้น Tea tree oil ส่วนผสมสุดฮิต หรือยังมีความงงๆ เกาหัวกันอยู่ บ่นกับตัวเองว่ายากไปไหมอะไรกันเนี่ยยยแบบนี้ วิธีที่ง่ายที่สุด ให้ดูที่เครื่องหมายรับรองออร์แกนิก แค่นี้เราก็จะเมคชัวร์ได้ว่า เราจะไม่เด๋อด๋าหยิบผลิตภัณฑ์อย่างอื่นที่ไม่ใช่ออร์แกนิกมาแล้ว
ครีมกันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com