การเลือกครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ศึกษาส่วนผสมให้ดี
เราทราบกันดีว่าการสัมผัสรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตหรือรังสี UV มากเกินไป จะเกิดอันตรายต่อผิวทั้งริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง แต่มนุษย์เราก็ฉลาดพอจะคิดค้นสารป้องกันแดดในชื่อที่รู้จักกันว่า “ครีมกันแดด” ซึ่งปัจจุบันมี 2 แบบคือแบบเคมีคอลที่ป้องกันผิวด้วยการดูดกลืนรังสี UV และแบบฟิสีคอลที่สะท้อนรังสี UV แต่ การเลือกครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ศึกษาส่วนผสมให้ดี แต่ละอย่างที่ระบุบนฉลากข้างขวดนั้นมีคุณ มีโทษ และวิธีการใช้แตกต่างกัน บางตัวเป็นมิตรต่อผิวแต่ก็เป็นอัตรายต่อสิ่งแวดล้อม งั้นมาทำความรู้จักกันหน่อย ว่าก่อนจะเลือกซื้อครีมกันแดดครั้งต่อไป ต้องมีส่วนผสมอะไรบ้าง
ครีมกันแดด (sunscreen)
ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด (Sunscreen agent) เพื่อใช้ทาผิวสำหรับป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนัง อันได้แก่ รังสีอัลตร้าไวโอเลต A (UVA), รังสีอัลตร้าไวโอเลต B (UVB) และรังสีที่ตามองเห็น (Visible Light) เพราะคนเราสามารถหลบจากแสงแดดได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง และถึงแม้การได้รับแสงแดดในเวลาไม่นาน แต่หากได้รับบ่อย ก็จะทำให้ภูมิต้านทานของเซลล์ผิวหนังลดลง และสะสมจนเกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน นอกจากนั้น แสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ และเกิดปัญหาที่คนหนุ่มสาวไม่ต้องการ อาทิ เกิดรอยเหี่ยวย่น เกิดตีนกา ผิวหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เกิดกระ เกิดฝ้า จนผิวหน้าแลดูแก่กว่าวัยอันควร
ประเภทของครีมกันแดด
🌞ครีมกันแดดแบบกายภาพ หรือ Physical Sunscreen
ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุธรรมชาติ
- ไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide)
- ซิงก์ออกไซด์ (Zinc oxide)
- ส่วนผสมที่จะเคลือบอยู่บนผิว เพื่อสะท้อนรังสียูวีออกไป ส่วนใหญ่มักจะทิ้งคราบขาวบนผิวที่ล้างออกได้ยาก และอาจมีโอกาสอุดตันรูขุมขนได้
🌞ครีมกันแดดแบบเคมี หรือ Chemical Sunscreen
ครีมกันแดดแบบเคมี มีส่วนผสมของสารเคมี
- ออกซีเบนโซน (Oxzbenzone)
- ออกติโนเซต (Octinoxate)
- สารเคมีเหล่านี้จะดูดซึมลงไปในผิว และทำหน้าที่ในการกรองรังสียูวี ทำให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องเซลล์ผิวที่อยู่ในชั้นลึกได้ดีกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็อาจมีโอกาสทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
ปัจจุบัน แสงแดดเป็นเป็นที่พิสูจน์ได้แน่ชัดแล้วว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง ทั้งมะเร็งผิวหนังชนิด nonmelanoma และmelanoma โดยเฉพาะชาวตะวันตกที่พบการเป็นมะเร็งผิวหนังเพิ่มมากขึ้น และมีความเสี่ยงมากกว่าคนเอเชียหลายเท่า ดังนั้น วิธีป้องกันมะเร็งผิวหนังที่ดีคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน แต่โดยทั่วไปแล้วคนเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถป้องกันได้ คือ การสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด การใช่ร่มหรือที่บังแดด และสุดท้ายที่นิยม คือ การทา ครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง รวมทั้งยังช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย ป้องกันการเหี่ยวย่น การเกิดรอยตีนกา ป้องกันผิวหมองคล้ำ และการเกิดกระฝ้าต่างๆได้ด้วย
- Avobenzone
- ป้องกันรังสี UVA ได้ดีกว่าเมื่ออยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอลและทำงานคู่กับ Mexoryl โดยหลายประเทศอนุญาตให้เติม zinc oxide และ titanium dioxide เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้นเพราะ Avobenzone ตัวเดียวโดดๆ จะทำงานได้น้อยลง 50-90% ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังการทา… ทั้งนี้ อย.ของสหรัฐอเมริกายืนยันว่าส่วนผสมนี้ปลอดภัยและใช้ได้ไม่เกิน 3%
- Mexoryl SX
- อยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอล โดยอยู่ในโลชั่นและครีมกันแดดที่ขายกันทั่วโลก สามารถบล็อกรังสี UVA1 คลื่นยาว ต้นเหตุของผิวแก่ก่อนวัย ถืว่าอ่อนโยนพอควรเพราะสามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ทั้งยังไม่เป็นอันตรายกับปะการังด้วย ทั้งนี้ Mexoryl SX จะป้องกันรังสี UVA ได้ดีมากขึ้นเมื่อทำงานคู่กับ Avobenzone
- Oxybenzone
- อยู่ในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล เป็นส่วนผสมที่นิยมมาก ช่วยสะท้อนรังสี UVA คลื่นสั้นและรังสี UVB โดย อย.ของ สหรัฐอเมริกาอนุญาตใส่ได้มากถึง 6% แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย ขณะที่ Haereticus Environmental Laboratory (HEL) วิจัยพบว่า Oxybenzone ทำให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ดังนั้นก่อนเล่นน้ำทะเลทุกครั้งต้องมั่นใจว่าตัวคุณจะไม่เป็นต้นเหตุของการทำร้ายสิ่งแวดล้อม
- Octinoxate
- พบในครีมกันแดดแบบเคมีคอล ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสี UV อันตรายจากการถูกแดดเผาและผิวแก่ก่อนวัย โดยอนุญาตให้ใส่ได้มากถึง 7.5% และจะทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานคู่กับ avobenzone แต่สารตัวนี้ถูกแบนในฮาวาย เพราะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในแนวปะการัง
- Tinosorb S และ M
- อยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอล โดยเป็นส่วนผสมที่นิยมในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย รวมถึงญี่ปุ่น ช่วยป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ถือเป็นส่วนผสมที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากแสงแดดและการเกิดอนุมูลอิสระ สามารถใส่ได้ถึง 10% ของส่วนประกอบทั้งหมด… แต่ อย.ของสหรัฐอเมริกาก็แบน Tinosorb S และ M เพราะมองว่ายังศึกษาผลกระทบได้ไม่ดีพอ
- Titanium dioxide
- อยู่ในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล ซึ่งอย.ของสหรัฐอเมริกายืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากแดดได้จริง เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปก็สามารถใช้ได้แล้ว สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ยกเว้นรังสี UVA1 คลื่นยาวที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย… แต่มีข้อควรระวัง จากบทความวิชาการเรื่อง Titanium dioxide in our everyday life; is it safe? ระบุว่าควรหลีกเลี่ยง Titanium dioxide ในรูปแบบของสเปรย์และผงแป้ง เพราะอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งได้หากเข้าปาก โปรดจำไว้ว่าส่วนผสมนี้อาจอยู่ในเครื่องสำอาง แป้งอัดแข็ง โลชั่น รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มไวเทนนิ่งด้วย
- Zinc oxide
- ส่วนประกอบอีกตัวที่อย.สหรัฐบอกว่าไม่อันตรายและป้องกันแดดได้จริง พบในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล ไม่ก่อให้เกิดอันตรายยกเว้นคุณจะเผลอกินเข้าไป และเมื่อเทียบกับ avobenzone และ titanium oxide แล้ว Zinc oxide จะมีประสิทธิภาพ มีความคงตัวและปลอดภัยต่อผิวบอบบางมากกว่า
ข้อต้องรู้ ก่อนทาครีมกันแดด
📍 เลือกแบบที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยมองหาคำว่า broad-spectrum protection และมีค่า SPF ไม่น้อยกว่า SPF30
📍 ควรทาทั้งผิวหน้าและลำคอ อย่าขี้เหนียวเกินไป
📍 อย่าลืมบริเวณรอบดวงตาและใบหูของคุณด้วยล่ะ
📍 หากทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาทุก 2-3 ชั่วโมง และควรทาทันทีหลังจากลงเล่นน้ำ และถ้าคุณแต่งหน้าก็สามารถใช้แป้งที่มีค่า SPF ได้เหมือนกัน
📍 อย่าหวังพึ่งเครื่องสำอางที่มีค่า SPF ทางที่ดีควรทาครีมกันแดดด้วย เช่น ถ้า ครีมกันแดด มีค่า SPF30 และเครื่องสำอางมีค่า SPF10 คุณก็จะป้องกันแสงแดดได้เท่ากับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงสุด คือ SPF30 เท่านั้น
ทั้งนี้ ผิวหนังของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อแสงแดดที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสีผิวหรือปริมาณของเม็ดสีผิวหรือเมลานินเป็นสำคัญ (melanin pigment) วิตามินต้านสิว vs เจลแต้มสิว โดยคนยุโรปที่มีผิวขาวจะมีปริมาณเมลานินที่ชั้นผิวหนังน้อย ทำให้รังสีแพร่เข้าไปในชั้นผิวหนัง และถูกดูดซับไว้มาก จึงเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังได้สูง ส่วนผิวหนังของคนเอเชียที่ค่อนข้างดำหรือคนผิวดำในแถบประเทศแอฟริกาจะมีเม็ดสีเมลานินสูง ทำให้ช่วยกรองรังสี ช่วยกระจาย และสะท้อนรังสีได้มาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่า
ครีมกันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com