ส่วนผสมฮิตใน สกินแคร์ ที่ควรรู้จัก

ส่วนผสมฮิตใน สกินแคร์ ที่ควรรู้จัก

 

ผิวสัมผัสกับสารเคมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสารเคมีที่เกิดจากมลภาวะ และสารเคมีที่ได้รับโดยตรงจากสกินแคร์ที่เราใช้ปรนนิบัติผิว ทุกสภาพผิวต้องการได้รับการดูแลที่อ่อนโยน นอกจากการเช็คส่วนผสมในสกินแคร์ เลือกใช้ให้ถูกเหมาะกับผิวแล้ว ควรต้องใส่ใจเพื่อสุขภาพผิวที่ดีที่สุด สารประกอบในสกินแคร์สามารถช่วย บำรุงผิวแต่ก็ต้องใช้ให้ถูก บางตัวใช้คู่กันแล้วกลับส่งผลดี ส่วนผสมฮิตใน สกินแคร์ ตัวไหนบ้างที่ไม่ควรจับคู่กันและตัวไหนบ้างที่สามารถใช้ด้วยกันได้ส่วนผสมฮิตใน สกินแคร์ ที่ควรรู้จัก
ส่วนผสมฮิตในสกินแคร์
  • AHA : Alpha Hydroxy Acid

ซ่อมผิวโทรม ให้ดูโกลว์ใส กรดที่สกัดจากผลไม้ธรรมชาติ ตัวช่วยชะลอริ้วรอย

    • ประโยชน์

การผลัดเซลล์ผิว เสริมความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นให้ผิว และแก้ปัญหาจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้เรียบเนียนดูกระจ่างใสขึ้น พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ Peeling อย่างโฟมล้างหน้า สครับ มาส์ก และ เซรั่ม

    • ข้อระวัง

หากใช้ AHA ที่เข้มข้นสูงเกินไป อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง และไวต่อแสง ควรทาครีมกันแดดควบคู่ด้วย

  • BHA : Beta Hydroxy Acid

ผิวมัน ผิวเป็นสิว กรด Salicylic Acid ตัวช่วยของผิวมัน ผิวเป็นสิว

    • ประโยชน์
ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวคล้ายกับ AHA แต่ความพิเศษที่เหนือชั้น คือ การจัดการรูขุมขนได้ดี บำรุงลึก งัดทุกความสกปรก ฆ่าทุกแบคทีเรีย และช่วยนำสารบำรุงอื่นๆ ให้ซึมลงผิวได้ดี เจอสารตัวนี้ได้ที่ข้างกล่องโฟมล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม และมอยเจอร์ไรเซอร์
    • ข้อระวัง

BHA ที่เข้มข้นเกินไป ส่งผลต่อผิวไม่ต่างกับ AHA ระคายเคือง ลอก แสบ แดง แนะนำให้ใช้ตอนกลางคืน หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เข้มข้นมากเกิน

  • Hyaluronic Acid

ฉ่ำเด้ง อิ่มน้ำ ผิวสุขภาพดี กรดไฮยาลูรอนิค หรือ HA เป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย

    • ประโยชน์

ช่วยตรึงคอลลาเจน อิลาสติน และเก็บกักน้ำคล้ายเขื่อนใต้ผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม  มีความยืดหยุ่น ริ้วรอยไม่มากวน ที่สำคัญผิวแบบดิวอี้สกิน กลาสสกิน โกลว์สกิน ที่ฮิตกันตอนนี้ ก็เริ่มจากการบำรุงด้วย HA ตัวจี๊ดนี่แหละ

    • ข้อระวัง

ไม่ควรอัด HA และวิตามินซีคู่กัน จากผิวปังอาจพังได้ โดยเฉพาะสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย

  • Vitamin E
บล็อคทุกมลภาวะ วิตามินอี หรือ Tocopherol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อผิว ละลายได้ในน้ำมัน จึงมีความเข้มข้นสูง
    • ประโยชน์
สารอนุมูลอิสระจะเข้าไปจัดการทันที ทั้งยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุ ให้ผิวกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ที่สำคัญครีมกระปุกไหนมีวิตามินอี จะช่วยให้ครีมนั้นอยู่ได้นานขึ้น
    • ข้อระวัง

หากพบอาการแพ้ ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

  • Vitamin C

ผิวกระจ่างใสแบบมีออร่า วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง สามารถละลายในน้ำ

    • ประโยชน์
เสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ แก้ปัญหาฝ้า กระ รอยแดง รอยดำจากสิว ปกป้องฟื้นฟูผิวจากแสงแดด และสมานแผลให้หายเร็ว
    • ข้อระวัง

ไม่ควรใช้วิตามินซี ร่วมกับครีมที่มีส่วนผสมหลักเป็นคอลลาเจน เพราะจะทำให้ผลิตภัณฑ์จับตัวเป็นก้อนบนผิว ไม่ซึมลงผิว

  • Niacinamide
เคลียร์ทุกปัญหาผิว อนุพันธ์ Vitamin B3 กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และเพิ่มเลเวลของ Ceramide
    • ประโยชน์
ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว ให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง ทั้งยังลดสิว แก้ปัญหารอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็นและริ้วรอย
    • ข้อระวัง

ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ลดลง

  • Ceramide
เก็บความชุ่มชื่น พร้อมปกป้องผิว สารจำพวกไขมัน ชื่อ Sphingolipid มีอยู่ในผิวหนังชั้นนอกโดยธรรมชาติ แต่อายุมากจะลดลง
    • ประโยชน์
ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น และกักเก็บน้ำใต้ผิว พร้อมปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำ จินตนาการง่ายๆ คล้ายกาวที่ยึดเซลล์ผิวทั้งหมดไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงและสุขภาพดี
    • ข้อระวัง

ไม่ควรปล่อยให้ผิวขาดเซราไมด์ โดยเฉพาะสาวผิวแห้ง จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้

  • Alpha Lipoic Acid : AHA
ผิวสว่างใสดุจไฟนีออน กรดไลโปอิก สารอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพครอบจักรวาล
    • ประโยชน์
ละลายทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงซึมลงผิวได้ดี ช่วยลดริ้วรอย ความแห้งกร้าน และลดขนาดรูขุมขน สำคัญตรงทำหน้าที่ดึงกลูต้าไธโอนที่เสื่อมสภาพไปแล้ว ให้กลับมาใช้งานได้ดี ผิวจึงกระจ่างใสขึ้น
    • ข้อระวัง

ผลข้างเคียงน้อยมากเรื่องของการ บำรุงผิว แต่สำหรับการรับประทานเพื่อสุขภาพ ไม่ควรเกิน 600 mg ต่อวัน

  • Retinol

ชะลอแก่ แก้หน้าสิว อนุพันธ์วิตามินเอหรือวิตามินเอรูปแบบหนึ่ง พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ Anti-Aging

    • ประโยชน์

สารแอนติออกซิแอนต์ต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมการสร้างเซลล์ผิว ต่อต้านริ้วรอย และที่ต้องไฮไลท์ ความสามารถพิเศษในการจัดการกับสิว เนียนกริบ

    • ข้อระวัง

แพ็คเกจต้องทึบและไม่ควรวางในที่แดดส่อง เพราะ เค้ามีความเซนซิทีฟ และเสื่อมสภาพง่ายมาก

  • Glycerin
เพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื่น ของเหลวไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ
    • ประโยชน์
ป้องกันผิวจากการระคายเคืองของมลภาวะ ทำงานร่วมกับสารที่เพิ่มความชุ่มชื่นหรือน้ำมัน ช่วยให้ผิวที่แห้ง เนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่นขึ้น เจอสารตัวนี้ได้ในโฟมล้างหน้า เซรั่ม โลชั่น มอยเจอร์ไรเซอร์ และมาส์กบำรุงผิว
    • ข้อระวัง

แทบไม่ต้องระวังอะไร ปลอดภัยแม้กระทั่งคนเป็นสิวง่ายก็ใช้ได้

  • Peptide

กู้ผิวป้าให้กลับมาหน้าเด้ง เปปไทด์เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยผิวในการผลิตคอลลาเจน

    • ประโยชน์

หน้าที่หลักในการลดอายุผิว ช่วยเคลียร์เรื่องริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุ ความเครียด และสภาวะแวดล้อมได้ดี เปปไทด์สามารถลดอาการอักเสบของผิว โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังได้

    • ข้อระวัง

อาหารเสริมที่มีคอลลาเจน เปปไทด์ คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมควรเลี่ยง

  • Sodium PCA
สยบปัญหาผิวแห้งกร้าน อนุพันธ์ของกรดอะมิโน ที่ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นตามธรรรมชาติ
    • ประโยชน์
ดูดซับน้ำ และความชุ่มชื่นจากอากาศภายนอกเข้าสู่ผิวได้ดีมากๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและทำให้ผิวเรามีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา โดยไม่อุดตันไม่เกิดสิว ผิวแพ้ง่ายใช้สารนี้ได้
  • ข้อระวัง

เก็บในอุณหภูมิห้อง ปิดฝาให้สนิท และให้ไกลจากแสงแดดด้วยนะ

  • Shea Butter

ผิวหน้านุ่มเหมือนผิวเด็ก มอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติที่ปลอดภัย สกัดจากเชียนัท หรือเมล็ดของต้นเชียนัท

    • ประโยชน์
จัดเป็นอาหารผิวชั้นเลิศ และเพื่อนสนิทของสาวผิวแห้ง ให้ความชุ่มชื่นกับผิวในระดับสูง มีวิตามินหลายชนิดในShea Butter คอยช่วยซ่อมผิวจากรอยแผล ลดริ้วรอยจากความแห้ง บำรุงผิวชั้นในให้แข็งแรง และเสริมสร้างคอลลาเจน ไปพร้อมกับปกป้องผิวจากแสงแดด
    • ข้อระวัง

เนย ออยล์ ครีม รูปแบบต่างๆ ของ Shea Butter ไม่ได้สร้างมาให้ใช้แทนกันได้ เลือกให้ถูกจุดที่ต้องการดูแล

  • Argan Oil
ชุ่มชื่นทุกตารางนิ้ว น้ำมันสกัดมาจากเมล็ดถั่วของต้น Argania ในโมร็อกโค ใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย
    • ประโยชน์
ทำหน้าที่บำรุงได้ครบทั่วร่าง ตั้งแต่ให้ความชุ่มชื่น ลดอาการอักเสบของผิว แก้ปัญหาสิว ตลอดจนจัดการกับริ้วรอยได้ดีมาก
    • ข้อระวัง

ถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไปและทำความสะอาดไม่ดีพอ อาจะเกิดการอุดตันได้

วิธีเลือกผลิตภัณฑ์
  • ส่วนผสมจากธรรมชาติ
ยิ่งเราสามารถเลือกใช้สกินแคร์ ที่มาจากธรรมชาติได้ในเปอร์เซ็นต์จำนวนมากเท่าไหร่นั่นหมายความว่าเรามีโอกาสในการได้รับสารเคมีในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยลง การมองหาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ออร์แกนิค หรือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มาจากธรรมชาติ 100%
  • ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน
สารกันเสีย ส่วนผสมฮิตในสกินแคร์หรือเราแทบจะสามารถพบได้ในทุกผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์  เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย สารตัวนี้ได้ห้ามใช้ในกลุ่มประเทศยุโรปตั้งแต่ปี 2003  แต่ในบ้านเรายังพบได้มากมายในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผิวและผม ซึ่งสารพาราเบนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และมีผลวิจัยว่าก่อให้เกิดโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีสาร SLS
Sodium Lauryl Sulfate สารทำความสะอาด ที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างห้องน้ำ รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายเรา เช่น สบู่ ยาสระผม และ สกินแคร์ต่างๆ โดย SLS จัดว่าเป็นสารระคายเคืองผิวหนัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่างๆ อย่าลืมเลือกที่ Sodium Lauryl Sulfate Free หรือ No SLS
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
กลิ่นสังเคราะห์หรือน้ำหอมสังเคราะห์ในสกินแคร์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเราแพ้ได้บ่อยครั้งเลย โดยเฉพาะผิวหน้า เช่น อาจก่อให้เกิดอาการแดง คัน ผิวลอก เกิดสิวผดหรือสิวอักเสบ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ต่างๆ แนะนำให้สาวๆเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม หรือเลือกเป็นกลิ่นธรรมชาติที่มาจาก essential oil
  • ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน
ซิลิโคนเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ และอุดตัน สกินแคร์หลายตัวมักใส่ส่วนผสมของซิลิโคนลงในผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีผิวสัมผัสที่นุ่ม ลื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ เคลือบปิดผิวไว้ไม่ใช้น้ำในผิวระเหยออก ขณะเดียวกันก็ล็อคสิ่งสกปรกไว้ไม่ให้ออกจากผิว ใครอยากหลีกเลี่ยงซิลิโคนในสกินแคร์ ให้อ่านฉลากดูส่วนผสมง่ายๆ หากมีสารที่ลงท้ายด้วย -cone -conol -silane หรือ -siloxane ให้หลีกเลี่ยง
ส่วนผสมในสกินแคร์ ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน 
Vitamin C + Benzoyl Peroxide (BPO)
ถ้าคนเป็นสิวบ่อย ๆ อยู่แล้วน่าจะคุ้นเคยกับชื่อ Benzoyl Peroxide หรือ BPO หรือ BP ตามแต่จะเรียก ซึ่งถ้านำมาใช้คู่กับวิตามินซีจะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่ไม่ทำให้เกิดผลดีกับผิว นอกจากนี้ตัว BP ยังค่อนข้างกัดผิว ละลายหัวสิว จนบางคนมีอาการแสบ แดง คัน ระคายเคืองอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอตัววิตามินซีเข้าไปยิ่งพังไปกันใหญ่ ถ้าอยากใช้จริง ๆ รอให้เลิกใช้ BP ก่อน อดทนรอนิดนึงเพื่อผิวที่เปล่งปลั่งสุขภาพดี ยิ่งทำให้ผิวอักเสบ ระคายเคือง
Salicylic + Glycolic
มาถึงตัวที่สองที่อยากขอร้องเบา ๆ ว่าอย่าใช้ด้วยกันเลย ทั้งๆที่แต่ละตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวดีมาก แต่เพราะอะไรนะหรอถึงห้ามใช้ด้วยกัน นั่นก็เพราะทั้งสองตัวนี้จริง ๆ แล้วก็คือ AHA และ BHA ยิ่งถ้าในแต่ละตัวเขาใส่มาให้ % สูง ๆ อยู่แล้ว ยิ่งไม่ควรใช้ด้วยกันเลย เพราะแทนที่จุดด่างดำ ริ้วรอยจะหาย กลายเป็นผิวพังเปิดเปิง เซลล์ผิวแห้ง สูญเสียน้ำเข้าไปกันใหญ่ ทางออกก็คือเลือกใช้ตัวใดตัวนึง และไม่ควรใช้ติดต่อกันทุกวัน ผิวยิ่งแห้งลอกง่าย ไม่แข็งแรง
Retinol + Vitamin C
สองตัวนี้เป็นอินเกรเดียนวิตามินตัวโปรดของเราเหมือนกัน เพราะต่างก็พกสรรพคุณมาล้นหลามทั้งลดริ้วรอย ปรับผิวให้สว่างสดใสขึ้น กระตุ้นคอลลาเจนในผิวให้ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น แต่พอใช้ด้วยกันปุ๊บ พังเลยจ้า นั่นก็เพราะทั้งสองตัวทำงานที่ค่า pH ไม่เท่ากัน โดยเรตินอลจะทำงานได้ดีที่ pH เท่ากับ 5.5-6 ส่วนวิตามินซีจะทำงานได้ดีที่ pH น้อยกว่า 3 ทำให้แทนที่จะทาสองตัวแล้วได้ประสิทธิภาพดีขึ้น กลายเป็นไปลดทอนประสิทธิภาพของทั้งสองตัวแทน ฉะนั้นถ้าอยากใช้โปรดักต์ให้คุ้มค่าทุกหยดที่สุด ไม่ใช้ด้วยกันจะดีกว่า ลดประสิทธิภาพของทั้งสองตัวลง ใช้ไม่คุ้มค่า
Vitamin C + AHAs
อย่างที่รู้กันค่ะว่าสองตัวนี้เวลาแยกกันอยู่แล้วมีประโยชน์มาก แต่พอรวมกันเท่านั้นแหละ จะทำให้ค่า pH ของผิวเสียสมดุลเนื่องจากความเป็นกรดที่สูงเกินไป แต่ถ้าถามว่าใช้แล้วอันตรายไหม ระคายเคืองไหม ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น แต่เจ้าตัว AHAs จะทำให้ประสิทธิภาพของวิตามินซีลดลง ดังนั้นสกินแคร์ที่เราซื้อมาแพงแสนแพงนั้น เขาก็ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ รู้แล้วคนประหยัดรู้คุณค่าของเงินอย่างเราก็อย่าทำเลยดีกว่า ผิวเสียสมดุล ได้คุณค่าจากส่วนผสมได้ไม่เต็มที่
สารในสกินแคร์ที่ใช้ด้วยกันได้ดี
Hyaluronic Acid + Retinol
ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผิวเรามีอาการแดง ระคายเคืองได้ ฉะนั้นเวลาที่เราเติม Hyaluronic Acid หรือ HA ให้กับผิว ก็เหมือนเป็นการเติมน้ำให้กับผิว แถมตัว HA ยังช่วยปลอบประโลม ลดการอักเสบที่เกิดจากตัวเรตินอลได้ด้วย ใช้ด้วยกันคือเวิร์คมาก เพิ่มความชุ่มชื้นผิว ลดการอักเสบ
AHAs/BHA + Ceramides
ที่บอกว่าใช้ด้วยกันแล้วดีนั่นก็เพราะว่า AHAs/BHA นั้นเขามีฤทธิ์กัดกร่อนผิวหนังชั้นบนสุดออกไป ซึ่งบางทีก็ทำให้สูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติของผิวไปด้วย การเติมเซราไมด์ซึ่งเป็นไขมันดีที่แทบจะเป็นองค์ประกอบหลักของผิวเรา ก็จะช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดีเพราะปราการผิวถูกซ่อมแซม ในขณะเดียวกันก็สดใส เปล่งประกายเพราะผิวชั้นนอกที่ตายแล้วถูกผลัดให้หลุดลอกไปนั่นเอง เพิ่มปราการปกป้องผิว พร้อมผิวสดใสเปล่งประกาย
Vitamin C + Sunscreen
จริง ๆ แล้วพวกที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีนั้นจะถูกทำลายง่ายมากเวลาโดนแสงแดด ทางแก้ก็คือช่วงที่ใช้วิตามินซีก็ให้ทาครีมกันแดดไปด้วย อย่างถ้าใช้วิตามินซีในตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็อย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวที่บำรุงมาด้วย ซึ่งได้ทั้งแบบ Physical (สะท้อนแสงแดด) และ Chemical (ดูดซับแสงแดด) ซึ่งมีการทดสอบแล้วว่ายิ่งเราปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดมาก เซลล์ผิวก็จะถูกทำลายได้ช้าลงค่ะ ผิวขาวใส ไม่กลัวแดด
Vitamin C + Niacinamide
อันนี้ได้ยินบ่อยสุด ๆ เลยว่าไม่ควรใช้สารสองตัวนี้พร้อมกัน เพราะเมื่อก่อนสารบริสุทธิ์ของทั้งสองตัวนี้เมื่อใช้ร่วมกันจะไม่ค่อยเสถียร แต่เมื่อเวลาผ่านไป แบรนด์ต่าง ๆ ก็เริ่มออกวิตามินซีตัวใหม่ ๆ และ Niacinamide ที่เสถียรมาก ๆ จนใช้ร่วมกันได้อย่างดี แถมทั้งสองตัวมีฤทธิ์ช่วยเรื่องผิวขาว คนที่อยากขาวออร่า คงไม่ต้องบอกว่าใช้สองตัวนี้พร้อมกันจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน เพิ่มพลังขาวใส ไร้ริ้วรอย
AHAs/BHA + Retinol
AHAs, BHA หรือ Retinol ทั้งสองตัวสามารถใช้ร่วมกันได้ค่ะ แถมยังให้ประโยชน์กับผิวอีกด้วย ทั้งในเรื่องลดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้าฝังลึก เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว รวมถึงยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า (Exfoliate) ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วย เพื่อผลัดผิวห่างไกลริ้วรอย
เมื่อรู้แล้วต่อไปนี้ควรต้องเลือกสกินแคร์ให้ดีอ่าน ส่วนผสมฮิตใน สกินแคร์ ให้ตรงกับปัญหา อาจจะเป็น ปราบสิว Maskne การใช้สกินแคร์ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดมีหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการใช้เรียงลำดับอย่างถูกวิธี การใช้ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงการเลือกส่วนผสมในสกินแคร์ให้ตอบโจทย์กับสภาพผิว ซึ่งปัจจัยนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ด้านอื่นๆเลย เพราะจะทำให้ส่วนผสมเข้าตรงดูแลบำรุงผิวได้อย่างถูกจุดนั่นเอง

ครีมบำรุงผิว มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com