สิว หลัง เกิดจากสาเหตุใดและวิธีรักษา
ปัญหาสิวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อากาศร้อนแบบนี้ สิว หลัง อาจเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้า อยากจะใส่เสื้อผ้าโชว์หลัง ทำให้ไม่มั่นใจตัวเอง เวลาใส่เสื้อโชว์หลังก็กังวลว่าใครจะเห็นรอยสิวแดง ๆ เล็ก ๆ เต็มหลังไปหมด สิวปรากฏได้ในคนทุกเพศทุกวัย และสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง
หากประสบปัญหาสิวที่หลัง สามารถรักษาตัวเองในเบื้องต้นเพื่อลดการแพร่กระจายของสิวได้โดยการทำความสะอาดบริเวณที่เป็นสิวอย่างอ่อนโยน ถ้าใครที่เป็นคนผิวมัน เหงื่อออกเยอะอยู่แล้วควรใช้ในปริมาณไม่เยอะ แล้วอย่าลืมทำความสะอาดให้หมดจดทุกครั้ง ห้ามหมักหมมอย่างเด็ดขาด การแต่งหน้าก็ทำให้เกิด สิว ควรล้างหน้าอย่างสะอาดให้หมดจดและล้ำลึก
สาเหตุการเกิดสิว
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่ง โดยระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน จะมีระดับสูงในช่วงวัยรุ่นโดยเฉพาะเพศชาย ทำให้เราพบสิวในช่วงอายุนี้มากกว่าช่วงอื่น ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้น มีการสร้างไขมันออกมามากขึ้น และในขณะที่น้ำมันเดินทางจากต่อมไขมันสู่ปากรูขุมขน เกิดไปผสมเข้ากับแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอยู่ในรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนกลายเป็นสิวอุดตัน ระหว่างนั้นเม็ดเลือดขาวในร่างกายจะออกมากำจัดแบคทีเรีย ทำให้สิวอักเสบ เกิดเป็นตุ่มแดง บวม เจ็บ และเป็นหัวหนองในที่สุด
ผู้หญิงบางคน อาจมีสิวเห่อมากขึ้นในระยะก่อนมีประจำเดือนได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีการบวมของรูขุมขนและการคั่งของน้ำในร่างกาย นอกจากนี้การหลุดลอกของผิวหนังที่ผิดปกติ ทำให้มีการหนาตัวของผิวหนังบริเวณปากรูขุมขนและแบคทีเรียที่สำคัญคือ Propionibacterium acne ก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ด้วย
สาเหตุหลักการเกิดสิว
- พันธุกรรม สังเกตได้จาก คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง คนในครอบครัว และอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ก็มีสิวเหมือนกันกับเรา เช่น หนึ่งในสมาชิกในครอบครัวเคยประสบกับสิวระดับรุนแรงมาก่อน
- การกินยา เช่น ยารักษาโรคลมชัก โรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน โรคไทรอยด์บางชนิด โรควัณโรค โรคมาลาเรีย และโรคที่เกี่ยวกับภาวะติดสุราเรื้อรัง
- การกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น กินอาหารที่มีไขมันสูง จะทำให้ร่างกายขับความมันส่วนเกินออกจากร่างกายเรามากขึ้น และกินอาหารที่มีรสหวานจัด อันนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเราอ่อนแอลง แผลหายช้า เพิ่มการเกิดริ้วรอยอีกด้วยนะและมีผลวิจัยยืนยันว่าการบริโภคคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังขาว เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้ และการรับประทานอาหารประเภทของทอดหรือของมันเป็นประจำ รวมถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต หรือขนมหวาน ก็เป็นทำให้ผิวมันมากขึ้น จึงทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวที่หลังได้
- ยา ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า อาจทำให้เกิดสิวได้
- ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล เช่น ช่วงวัยรุ่น ช่วงก่อนมีหรือมีประจำเดือน ช่วงเครียด จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายบางชนิด ทำงานมากกว่าปกติหรือน้อยกว่าปกติ
- ความเครียด เป็นปัจจัยหลักของการเกิดสิว แต่ไม่ใช่โดยตรง จะมีผลต่อฮอร์โมนในร่างกายของเรา ช่วงที่ร่างกายเกิดความเครียด ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และมีภาวะไม่สมดุลกันในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ในสัดส่วนที่มากกว่าฮอร์โมนเพศหญิง จึงทำให้เกิดผิวมัน รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวได้ง่าย
- เหงื่อไคล เกิดจากการใส่เสื้อผ้าที่ไม่สามารถระบายเหงื่อและความร้อนในร่างกายของเราได้ดี จึงทำให้เกิดการหมักหมม อับชื้น ทุกครั้งหลังเหงื่อออก หากมีตุ่มน้ำใส ๆ หรือผดผื่นคันขึ้นบริเวณแผ่นหลัง ข้อพับ ลำคอ ไปจนถึงใบหน้า นั่นอาจไม่ใช่สิวแต่เป็นอาการของโรคแพ้เหงื่อตัวเอง กรณีนี้แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้กับผิวพรรณ เช่น ครีมกันแดด ครีมทาผิว และน้ำมันนวดผิว ก็เป็นสาเหตุให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิวได้เช่นกัน นอกจากนี้แชมพู และครีมนวดผม ก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ด้วย หากล้างทำความสะอาดไม่หมด ก็จะเกิดการตกค้างอยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดสิวที่หลังได้
- เสื้อผ้าที่สวมใส่ โดยเฉพาะผ้าเนื้อแข็ง ที่เสียดสีกับแผ่นหลังตลอดเวลา หรือเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดีพอ จนเกิดการอับชื้น เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไคล ทำให้รูขุมขนอุดตันจนกลายเป็นสิวที่หลังได้ในที่สุด รวมถึงการใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็อาจทำให้แผ่นหลังระคายเคือง และเกิดสิวได้เช่นกัน
- ผ้าปูที่นอนไม่สะอาด ผ้าปูที่นอนและหมอนที่สกปรกก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน ดังนั้นควรหมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้นานจะเป็นที่สะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกได้
ชนิดของสิวที่หลัง
- สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว
- สิวหัวดำ เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง
- สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส
- สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) มีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและอาการแดงบริเวณรอบ ๆ หัวสิว
- สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodules) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ
- สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น
วิธีป้องกันสิวที่หลัง
สิวที่หลังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะบางครั้งอาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดความเสี่ยงของการเกิดสิว โดยจำกัดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วมผสมหลักเป็นน้ำมัน ลดแรงกดบริเวณหลังและหลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด หรือลดความเสี่ยงด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น
- ใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ หากเหงื่อออก เสื้อผ้าหลวม ๆ จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายและระบายเหงื่อ แต่เสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวเกินไปจะดักจับเหงื่อและสิ่งสกปรกไว้พร้อมทั้งยังเสียดสีบริเวณผิวหนังหรือรูขุมขน การถอดเสื้อออกกำลังกายในบริเวณที่พื้นสกปรกหรือบริเวณที่เครื่องเล่นเต็มไปด้วยเหงื่อก็อาจก่อให้เกิดสิวได้
- เลือกใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสม เพราะครีมที่มันเกินไปอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันและเบาบางต่อผิว ครีมกันแดดสำคัญมากในการป้องกันผิว โดยเฉพาะเมื่อต้องเปลือยหลังต่อแสงแดด
- ไม่ให้ผมสัมผัสโดนหลัง เพราะร่างกายคนเรามักผลิตน้ำมันออกมาสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผมอยู่เสมอ หากปล่อยให้ผมสัมผัสกับหลังอยู่บ่อย ๆ สิ่งสกปรกหรือน้ำมันจากผมอาจก่อให้เกิดสิวที่หลังได้ ควรมัดผมหรือรวบผมเวลาที่มีเหงื่อและสระผมให้สะอาดอยู่เสมอ รวมไปถึงพยายามไม่ให้ครีมนวดผมหรือแชมพูไหลผ่านหลัง เพราะส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้
- อาบน้ำหลังออกกำลังกายแล้วปล่อยให้เหงื่อแห้งเองโดยไม่อาบน้ำ ควรอาบน้ำให้เร็วที่สุดหลังจากเล่นกีฬาทุกครั้ง เพราะเหงื่อที่สะสมอยู่ในเสื้ออาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ เพราะเหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อเป็นตัวการทำให้เกิดสิวที่หลังนั่นเอง
- ขัดผิวอย่างอ่อนโยน เช่นการใช้กรดซาลิซิลิกขัดผิว การขัดผิวช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวหนัง รวมไปถึงลดจำนวนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่มักไปอุดตันรูขุมขน แต่ไม่ควรทำรุนแรงหรือบ่อยเกินไปเพราะทำให้ผิวแห้งระคายเคือง
- เลือกบริโภคเพื่อสุขภาพ มีตัวอย่างงานวิจัยยืนยันว่าการบริโภคอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างคาร์โบไฮเดรตเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดสิวหรือทำให้สิวรุนแรงกว่าเดิม การเลือกบริโภคเพื่อสุขภาพ เช่นการบริโภคธัญพืช ลีนโปรตีน ผักและผลไม้เยอะ ๆ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้
- พอกด้วยว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรืออาจนำเจลว่านหางจระเข้ ะนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้
อยากผิวเนียนสวย และบางครั้งการประทินผิวก็ก่อให้เกิด สิว ถ้าใช้ในปริมาณมากหรือแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุดตันรูขุมขน ระคายเคือง อักเสบจนเกิดเป็นสิวได้ 
แนะนำโทนเนอร์
- KANDA WITCH HAZEL SOOTHING TONER
- KANDA MULTI-ACTIVE SENSITIVE SKIN TONER
กันดะ มัลติ-แอคทีฟ เซนซิทีฟ สกิน โทนเนอร์ สูตรอ่อนโยน ผิวแพ้ง่าย มี Centella หรือ ใบบัวบก 88%ทำความสะอาดอย่างล้ำลึกปลอบประโลมผิว และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น สูตรนี้เป็นสูตร No Fragrance ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือกลิ่นสังเคราะห์
- KANDA CALENDULA DEEP ESSENCE TONER
ฤดูไหนเราก็หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่พ้น ควรทา กันแดด แสงยูวี ความจริงแล้วแสงแดดก็มีประโยชน์มาก มีส่วนช่วยผลิตวิตามินดีในมนุษย์ แต่ถ้าได้รับแสงแดดมากเกินไปก็เกิดอันตรายได้เช่นกัน
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com

