ริ้วรอย ปัญหาผิว จัดการอย่างตรงจุดปลอดภัย
กาลเวลาทำให้เกิดปัญหาผิว ริ้วรอย ปัญหาผิว ความหมองคล้ำเหี่ยวย่นหางตา เกิดความคล้ำรอบตัวตา ผิวหย่อยคล้อยถุงใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวให้ริ้วรอยตื้นจางลง จัดการอย่างตรงจุดปลอดภัย
ปัญหาริ้วรอยบนหน้าเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว สาเหตุหลักอันมาจากอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ไขมัน เซลล์ใต้ชั้นผิวหนัง คอลลาเจน และกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่อยู่ในชั้นผิวเริ่มลดลง ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ปัญหาผิวดูแก่กว่าวัย มีความเหี่ยวย่นพร้อมริ้วรอยเกิดขึ้นได้
กรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาจากคนในครอบครัว รวมไปถึง คอลลาเจน ไฟเบอร์ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นใต้ผิวชั้นในเริ่มเบาบางลง ส่งผลให้ผิวหน้าสูญเสียโครงสร้างที่ทำให้ผิวตึงกระชับ แล้วจึงเริ่มหย่อนยานจนเกิดริ้วรอยผิวเหี่ยวย่นอันมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์นั้นจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ สามารถชะลอการเกิดผิวหย่อนคล้อยได้ จากการดูแล และ บำรุงผิว อย่างถูกวิธีด้วยผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยที่มีคุณภาพ
เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้นทุกปี ร่างกายจะผลิตสารกระชับน้อยลด คอลลาเจน ไฮยาลูออนในชั้นผิวจะค่อยๆลดลงรวมทั้งปัจจัยภายนอกที่มลภาวะทางอากาศ รังสียูวี ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหา รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบไม่เรียนเนียน มีริ้วรอยแรกเริ่มและผิวหมองคล้ำ โดยเฉพาะผิวชาวเอเชียเราจะมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ผิวมัน ทำให้เกิดสิวได้ง่าย
ปัจจัยการเกิดริ้วรอย
- อายุเพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้นผิวย่อมสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น โดยเฉพาะบริเวณหางตาและใต้ตา ที่มักจะเป็นส่วนที่เกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายมาก
- ผิวขาดความชุ่มชื้น
คนที่ผิวแห้งมักจะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายกว่าคนที่ผิวมัน โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตาที่มีความบอบบางและแห้งง่ายกว่าผิวส่วนอื่นของใบหน้า
- แสงแดด
สิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เป็นอันตรายต่อผิวโดยเฉพาะแสงแดดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด จะเป็นตัวทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด ริ้วรอยใต้ตา ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า เช่น การยิ้ม หรี่ตา นอกจากนั้นการเช็ดล้างเครื่องสำอางบริเวณดวงตาไม่สะอาด หรือ เช็ดแรงเกินไป รวมไปถึงคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ และ คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ความเครียด
ความเครียดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดริ้วรอย ผ่านการแสดงสีหน้าทางอารามณ์และส่งผลต่อระบบในร่างกายทำงานผิดปกติ รวมไปถึงส่งผลระบบการผลิตฮอร์โมนแอสโตรเจน ที่มีส่วนให้ผิวอ่อนเยาว์เรียนเนียน
เอสโตรเจน คือฮอร์โมนที่มีความสำคัญสำหรับผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงมีความอ่อนหวาน ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลเนียนนุ่มสดใส มีทรวงอกเพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นแม่ นอกจากนี้ เอสโตรเจนยังมีผลกับอวัยวะภายในร่างกายแทบทุกระบบอีกด้วย โดยเฉพาะสมอง เพราะจะช่วยในเรื่องความจำ ในขณะที่เต้านมจะทำหน้าที่ผลิตน้ำนมและกระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโตเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาว หัวใจกับตับ ช่วยควบคุมการผลิตคอเลสเตอรอล เป็นตัวช่วยที่ไม่ก่อให้เกิดเมือกไขมันอุดตันภายในเส้นเลือด
วิธีเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจน
1.รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ได้แก่ น้ำมะพร้าว น้ำมะม่วงสุก เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ ลูกพรุน ถั่วเหลืองและถั่วทุกชนิด รวมถึงกุ๊ยช่าย เป็นต้น
2.รับประทานฮอร์โมนเสริมทดแทน
- การพักผ่อน
การนอนหลับทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจาต่อมไร้ท่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนเหมือนสมัยวัยรุ่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลลดรอยเหี่ยวย่น ลดรอยตีนกา ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดีอีกครั้ง
- สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอร์
- ดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใต้ตาแล้ว ยังส่งผิวดีต่อร่างกายทุกส่วนอีกด้วย เมื่อผิวมีความยืดหยุ่นก็จะดูสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์
- หลีกเลี่ยงแสงแดด
อยากที่ทราบกันดีว่าแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวพรรณ โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบด้วยตาที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้นควรเลี่ยงแสงแดดแรงๆ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้อาจจะใส่แว่นกันแดดเพื่อปกป้องดวงตาจากการโดนแสงแดดโดยตรง
- ไม่ขยี้ตา
ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมาก ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาโดยตรง โดยเฉพาะการขยี้ตาแรงๆ เพราะเหตุนี้จึงทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ง่าย
- เช็ดเครื่องสำอาง
ไม่ควรเช็ดเครื่องสำอางแรงจนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่เป็นส่วนบอบาง ถ้าเครื่องสำอางนั้นเช็ดออกยาก เราอาจจะลองเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ไว้สำหรับเช็ดบริเวณรอบดวงตาโดยฉเพาะ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน ช่วยให้เช็ดออกง่ายก็จะช่วยถนอนผิวได้มากขึ้น
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง จะช่วยให้ผิวซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แถมยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายอีกด้วย ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย
- ผักผลไม้ก็สำคัญ
ผักผลไม้เป็นอีกตัวช่วยที่ดีทำให้ร่างกายได้รับวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาและเมื่อสายตาเราดีแล้ว ก็ไม่ควรเผลอขยี้ตาหรือหรี่ตาบ่อยๆ เพราะอาจทำให้เกิดปัญาริ้วรอยใต้ตาตามมา
อาหารผิวคืออะไร
โดยปกติร่างกายต้องรับประทานอาหารทุกวันเพื่อสร้างการเจิญเติบโตให้กับร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างเสริมสุขภาพให้แร็งแรง ผิวเองก็เช่นกันค่ะ ที่ต้องการอาหารเพื่อเข้าไปบำรุงเซลล์ผิวให้ดูเปล่งปลั่ง สดใส มีสุขภาพดี นอกเหนือจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้วเป็นอย่างน้อยแล้ว “อาหารที่ผิวต้องการ” ในที่นี้หมายถึงอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารเพื่อผิวพรรณที่สดใส ดูเปล่งปลั่งตลอดเวลา
อาหารผิวนั้น หลัก ๆ มาจาก 2 ทาง ได้แก่
1. อาหารตามธรรมชาติ
คืออาหารที่ได้รับตามธรรมชาติ เป็นอาหารที่คนเรารับประทานเข้าไปทุกวัน ซึ่งอาหารในส่วนนี้นอกจากร่างกายของเราจะต้องการแล้ว ผิวของเรายังต้องการสุดๆ เลยอีกด้วย
2. อาหารผิวจากภายนอก
เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวโดยเฉพาะในการทำหน้าที่เป็นสาร Anti-oxidant สามารถต้านสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกายมีความเปล่งปลั่ง สดใส ซึ่งอาหารประเภทนี้จะเป็นวิตามินหรือสารที่สกัดออกมาแล้ว ได้แก่ Vitamin F (Unsaturated Essential Fatty Acids) Vitamin C Vitamin E Co – Enzymes Carotenoids ที่ได้จากผักสีต่างๆ และ Glutathione
ผิวของเราจะมีการผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ โดยร่างกายจะสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ ซึ่งหากผิวไม่ได้อาหารผิวที่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้ผิวเกิดริ้วรอย แผลเป็น หรือรอยตีนกาแห่งวัยได้ ในทางตรงกันข้าม หากผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ผิวจะสดใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง มีสุขภาพดี
- การกิน พืช ผัก ผลไม้ ตระการไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant) ช่วยต่อสู้กับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม กำจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ส้ม มะนาว มะละกอ สตรอเบอร์รี่ บรอคเคอร์รี่ ดอกกะหล่ำ ผักโขม แครอท คะน้า เป็นต้น
- พืชที่มีเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) หรือวิตามินเอ (Vitamin A) ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิว ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกแสงแดดทำลาย ทั้งยังช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วย เริ่ด! เช่น ฟักทอง แครอท แตงโม แคนตาลูป มะเขือเทศสุก ฝรั่ง ผักโขม เป็นต้น
- เซเรเนียม (Selenium) ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย มีมากในธัญพืชที่ไม่ฟอกขาว เช่น เนื้อแดง กุ้ง ปู ข้าวกล้อง ไข่ เห็ด
- วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยผลิตคอลลาเจน และปกป้องเซลล์ผิวถูกทำลาย พบอาหารผิวมากๆ จาก ฝรั่ง ส้ม สับปะรด และมะขามป้อม
- อาหารที่มีวิตามินอีและสังกะสี (Vitamin E & Zinc) ช่วบปกป้องผิวชั้นนอกจากรังสี UV วิตามินอี เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมัน ถั่ว งา ข้าวกล้อง สังกะสีพบในปู หอยนางรม เนื้ออกไก่ จมูกข้าว
- กรดไขมันจำเป็นตระกูลโอเมก้า-3 (Essential Fatty Acid: Omega-3) เสริมสร้างให้ผิวชั้นนอกแข็งแรง จึงสามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ดี ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง ป้องกันการอักเสบ พบมากในปลาทู ปลาทะเลทั่วไป สาหร่าย น้ำมันถั่วเหลือง
อาหารผิวที่เราได้รับจากภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกโลชั่น หรือครีม บำรุงผิว ทำให้ผิวกลับมามีสุขภาพแข็งแรง ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ทั้งริ้วรอย สิว รูขุมขนกว้าง และยังทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้อีกด้วย
ดวงตาคู่สวยกันทุกคนสามารถสื่ออะไรได้หลายๆ อย่าง การไม่มี ริ้วรอยรอบตา ก็จะเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้ และซึ่งที่ช่วยชะลอปัญหานั้นได้อีกหนึ่งสิ่ง กันแดด เนื้อเซรั่ม แสงแดดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา เป็นตัวทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com


