สิวลด โทนเนอร์ ปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน
การล้างหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อผิวหน้า สิวลด โทนเนอร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งที่ตกค้างที่อยู่ในรูขุมขน สภาวะสภาพอากาศในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลพิษที่มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM2.5 หรือแม้กระทั่งควันไอเสียจากรถ ทุกวันนี้เราเจอกับฝุ่นละออง หมองควัน สิ่งสกปรกขนาดเล็กในอากาศที่ลอยตัวและฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ทำให้ผิวเกิดการอุดตันจนเป็นเหตุทำให้เกิดสิว
ปัญหาที่สะสมดังกล่าวทำให้สาวๆหลายคนเริ่มแต่งหน้าไม่ติด ผิวพรรณหมองคล้ำ แม้กระทั่งเกิดผดผื่นสิว ทั้งๆที่ล้างหน้าเช้า-เย็น บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับใบหน้าทุกวัน ลดปัญหา สิว ที่กวนใจคุณสาวๆ อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดสิว การทำความสะอาดหน้าไม่ล้ำลึกมากพอ บางครั้งการล้างหน้าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องผจญกับมลภาวะในทุกๆวัน จึงต้องมีตัวช่วยมาแก้ปัญหานั้น คือ โทนเนอร์
การใช้โทนเนอร์ จะเป็นเหมือนขั้นตอนสุดท้ายในการทำความสะอาดผิว บางครั้งสิ่งสกปรกไม่สามารถล้างให้สะอาดให้ด้วยน้ำและโฟมล้างหน้าในรอบเดียวได้ จะช่วยขจัดสิ่งที่อุดดันอยู่ตามรูขุมขน ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งจะช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมในขั้นตอนบำรุง ซึ่งเราจะสามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น เพราะรูขุมขนเราสะอาด อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน กำจัดสิ่งสกปรกอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว หลังจากใช้โทนเนอร์แล้วหลายคนพบว่าแต่งหน้าได้ติดทนยิ่งขึ้น และ มีผิวที่ใสสะอาดมากกว่าเดิม ไม่มีสิ่งสกปรกอุดดันตันอันเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วย
ปัญหาสิว ใครหลายคนกำลังเผชิญอยู่ โดยสิวหรือผิวมันนี้มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของปัจจัยภายในอย่างพันธุกรรมหรือฮอร์โมนและปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดสิวและปัญหาผิวมากขึ้น ซึ่งหลายคนอาจเลือกใช้ครีมหรือยาแต้มสิวเพื่อเข้าจัดปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่อีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ โทนเนอร์ ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างหมดจดและบำรุงผิวให้แข็งแรง พร้อมทั้งปรับสภาพผิวของเราให้มีความสมดุล กระชับรูขุมขนมากขึ้น ผิวหน้าของแต่ละไม่เหมือนกัน ทั้ง ผิวผสม-มัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย
เช็คสภาพผิว
- ผิวธรรมดา
ผิวธรรมดาเป็นสภาพผิวที่ดีที่สุดเนื่องจากผิวจะเนียน นุ่ม ยืดหยุ่น มีสุขภาพดี ฟื้นสภาพได้เร็ว ทั้งยังมีน้ำมันและความชื้นมาก ผิวที่มีสุขภาพดีซึ่งจะมีสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ ของผิวในการเสริมสร้างความสมดุลที่ดีของไขมันและความชุ่มชื่นของผิวหนัง
ผิวธรรมดาดูอย่างไร
– ผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป
– ผิวเนียนละเอียดนุ่ม ดูอวบอิ่ม ชุ่มชื่นพอดี
– รูขุมขนเล็กจนแทบมองไม่เห็น
– ใบหน้าไม่มีปัญหาผิว ฟ้า สิว กระ ริ้วรอย รบกวนมากเท่าไหร่
– มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี
-ผลิตน้ำมันได้สมดุล
- ผิวผสม
ใบหน้าเป็นเพียงบริเวณเดียวของร่างกายที่มีผิวผสม กล่าวคือบางบริเวณผิวจะแห้ง ในขณะที่บริเวณอื่นๆ จะมีผิวธรรมดาหรือผิวมัน ลักษณะบ่งชี้ โดยทั่วไปของผิวผสมคือผิวบริเวณ “ทีโซน” (หน้าผาก จมูก และคาง) จะมีความมันมากกว่าปกติ ส่วนผิวบริเวณดวงตา และแก้มผิวจะแห้ง
ผิวผสมดูอย่างไร
– ผิวมันบริเวณ T-zone ได้แก่ บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง
– ผิวแห้งบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม
– มีสิวอุดตันมีจมูกและมีสิวที่หน้าผาก
– รูขุมขนช่วงบริเวณ T-zone จะกว้างเป็นพิเศษ
- ผิวมัน
ผิวมันผลิตไขมันที่บริเวณผิวหนังออกมามากเกินไป ผิวมันจึงมีสารคัดหลั่งที่เป็นไขมันจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวดูมัน รูขุมขนเปิดกว้าง และมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยดำและสิว ผิวประเภทนี้ต้องการการทำความสะอาดที่หมดจดแต่อ่อนโยน เลือกตัวช่วยลดรอยด่างดำและสิวลงได้ ส่วนครีมที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมมากไม่เหมาะสำหรับผิวประเภทนี้ สาเหตุของผิวมัน การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ระดับฮอร์โมนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น อารมณ์ ความเครียด เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเยอะหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคือง
ผิวมันดูอย่างไร
-น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป
-หน้ามันเยิ้มสมปรกง่าย
-มีแนวโน้มเป็นสิวอุดตันและสิว ประเภทอื่นๆ ได้ง่ายอีกด้วย มีสิวเสี้ยน สิวหัวดำ
-ผิวเงา มันวาว รูขุมขนกว้าง
-ผิวจะมีลักษณะดูหนา ค่อนข้างหยาบ และดูไม่เรียบเนียน
-มองไม่เห็นเส้นเลือดบนผิวอย่างชัดเจนนัก จนบางครั้งอาจทำให้แลดูหมองคล้ำ
- ผิวแห้ง
ผิวแห้งเป็นผิวที่แพ้ง่าย หยาบ ตึง คัน แดง และลอกเป็นขุยได้ง่าย ผิวประเภทนี้ต้องการความชุ่มชื้นมาก ผิวที่ละเอียดบอบบางและเกิดริ้วรอยได้ง่าย เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันที่น้อยกว่าผิวธรรมดา เพราะผิวขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ความรู้สึกหยาบกร้านและดูหมองคล้ำได้ง่าย อีกทั้งยังต้องการส่วนผสมของน้ำมันจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผิวประเภทนี้แห้งตึงมากจะเกิดอาการระคายเคือง ต้องการการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและการดูแลอย่างใส่ใจสม่ำเสมอเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ โดยผู้สูงอายุจะมีโอกาศมีผิวแห้งได้มากเนื่องจาก การผลิตไขมันที่ผิวหนังไม่เพียงพอและผิวหนังชั้นกำพร้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวหนังไม่สามารถ กักเก็บน้ำและไขมันไว้ได้ สามารถจำแนกออกได้ 2 กรณี คือ
-ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น (Dry Skin) จะเป็นอาการผิวแห้งเพียงเล็กน้อย มีลักษณะผิวแห้งกร้าน มองเห็นร่องลายของผิวได้ง่าย ส่วนมากพบที่บริเวณ แขน ขา มือ
-ผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย (Extremely dry skin) ผิวมีลักษณะแห้งมาก แดง ผิวลอกเป็นขุย สามารถสังเกตรอยแตกลายได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอาการแสบคันร่วมอยู่ด้วย
ผิวแห้งดูอย่างไร
-ผิวดูขาดน้ำ แห้งกร้าน ไม่กระจ่างใส
-ผิวลอกเป็นขุย มีความยืดหยุ่นน้อย
-มีอาการคันบ่อยมีผื่นแดงหรือรอยแดงที่ผิว
-รูขุมขนเล็ก ละเอียด
-มีริ้วรอยก่อนวัย
-มีอาการตึงผิว ผิวแตก หรืออาจมีการอักเสบและมีอาการคันได้ง่าย
- ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย
ผิวแพ้ง่ายและอาการระคายเคืองเกิดขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุและเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ ผิวที่ระคายเคืองง่ายและบอบบางมากๆ เช่น กระดาษทิชชู อากาศร้อน หรือแม้แต่ฝุ่น มีปัญหาแพ้ง่าย แดง ระคายเคืองง่ายต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป มักเกิดอาการ แห้งลอก บวมแดง เป็นผื่นแพ้ แสบ เพราะเกิดจากเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายเพราะต้องโดนปัจจัยภายนอกเช่น ฝุ่น สารเคมี หรือแบคทีเรีย เข้ามาทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง
ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ดูอย่างไร
-ผิวหน้าตึง แพ้ง่าย
-ผื่นขึ้นและอักเสบง่าย
-ระคายเคืองต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป
-สุขภาพผิวไม่แข็งแรง
-ผิวจะเกิดอาการเป็นผื่นแดง คัน แสบร้อน ไปจนถึงผิวแห้งแตก
แนะนำโทนเนอร์
กันดะ มัลติ-แอคทีฟ เซนซิทีฟ สกิน โทนเนอร์ สูตรอ่อนโยน ผิวแพ้ง่าย มี Centella หรือ ใบบัวบก 88%ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก
โทนเนอร์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กู้ ผิว ริ้วรอยก่อนวัย คืนความชุ่มชื้นแก่ผิวลดความแห้งกร้านของผิว และยังลดการระคายเคือง ยับยั้งการเกิดสิวกระชับรูขุมขน ช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง เติมน้ำให้ผิวเด้งดึงแน่นอน
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com


