ไขข้อข้องใจ สิวเกิดจากอะไร? แตกต่างต่างกันยังไงบ้าง?
หลายๆคน คงเคยเป็นสิว ไม่รู้ว่าจะดูแลผิวยังไง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสิวแบบไหน ใช่ไหม เรื่องข้องใจและอยาก ไขข้อข้องใจ สิวเกิดจากอะไร? แตกต่างต่างกันยังไงบ้าง? ดังนั้น เรามาหาทำให้ตัวเองใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นดีกว่ากับ ปัญหา “สิว” กวนใจหนักมาก ทำให้หน้าไม่เรียบเนียนเลย แล้วสิวแต่ละประเภทต่างกันยังไง เกิดจากอะไร?เพราะเรื่องสิวๆ นี่เป็นเรื่องที่ กวนใจ และแทบไม่มีใครที่ไม่เคยเป็นอย่างแน่นอน ซึ่งคงมีหลายคนสงสัยอยู่เหมือนกัน ดังนั้น วันนี้เราก็เลยหาคำตอบมาฝาก
สิวเกิดจากอะไร?
คงต้องบอกว่า สาเหตุของการเกิดสิวนั้น มีได้จากหลายปัจจัยมากๆ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวจะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- Sebum
ถ้าถามว่า สภาพผิวแบบไหน จะทำให้เราเป็นสิวได้ง่ายที่สุด ก็คงต้องบอกว่าเป็น ผิวมัน หรือ ผิวที่ผลิตน้ำมันได้มาก ซึ่งในใบหน้าของเรา จะสร้างไขมันมาจาก Sebum หรือที่เรียกว่า ต่อมไขมัน นั่นเอง ส่วนใหญ่ บริเวณผิวหนังของเราที่เป็นสิวง่ายๆ ก็จะเป็นบริเวณ ใบหน้า, หน้าผาก, หน้าอก, หลังและไหล่ โดยที่ผิวบริเวณจะเต็มไปด้วย sebaceous glands ที่จะมีการผลิตน้ำมันเยอะกว่าบริเวณอื่นๆ ดังนั้น ใครที่มีผิวมันหรือ ผิวผสมที่มันก็มีโอกาส ที่จะเป็นสิวได้มากกว่าสภาพผิวแบบอื่นๆ นั่นเอง
- Hair follicles clogged
ในผิวของเรา นอกจากจะมีต่อมไขมันแล้ว ก็ยังมี ขนและรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุ ของการเกิดสิวได้ด้วย ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวก็มาจากการที่ รูขุมขนเกิดการอุดตันจากน้ำมัน หรือเซลล์ตายแล้ว ที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เราเห็นเป็น รอยนูนๆ อยู่ใต้ผิวหนัง เรียกว่า Hair follicles clogged แต่ถ้ารูขุมขนบริเวณเหล่านั้น ไม่ได้อยู่ใต้ผิวหนัง แต่อยู่บนผิวและมา เจอกับอากาศก็จะเกิดเป็น Blackhead หรือสิวหัวดำนั่นเอง
- Bacteria
นอกจาก ผิวหนังหรือรูขุมขนที่เป็นปัจจัยภายใน ในการเกิดสิวขึ้นมาได้แล้ว ปัจจัยภายนอกที่จะทำให้ผิวของเรา เป็นสิวได้ก็มาจากสิ่งสกปรกอย่าง Bacteria ได้นั่นเอง โดยจากขนาดที่เล็กของมัน ทำให้มันสามารถเข้ามาในรูขุมขนของเราได้อย่างง่ายดาย และทำให้เกิด การอักเสบ และกลายไปเป็น สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวนั่นเอง นอกเหนือจาก 3 ปัจจัยหลักที่ว่ามาแล้ว ก็ยังมีปัจจัยรองอื่นๆ ที่สามารถทำให้เราเป็นสิวได้เช่นเดียวกัน ได้แก่
-
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
- ความเครียด
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต, น้ำตาล, ไขมันสูง
- ยาบางชนิด ( corticosteroids, testosterone or lithium ) การแต่งหน้า โดยที่ไม่รักษาความสะอาดให้ดี
สิวมีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันยังไง?
สิวหัวขาว ( Whiteheads )
ก่อนอื่น ขอเริ่มจากสิวเบสิคที่สุดที่ใครๆ ก็น่าจะเคยเป็นกันบ่อยๆ อย่าง สิวหัวขาว หรือ Whiteheads กันก่อนเลย โดยสิวหัวขาว เป็นสิวที่เกิดจากการ อุดตันของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมกับต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เราเห็นเป็นเหมือน หนองสีขาวๆ ที่มีความนูนออกมาจากผิว ซึ่ง สิวประเภทนี้ จะเป็นสิวที่รักษาง่ายที่สุด เพียงแค่เอาหัวสิวออกก็หายแล้ว โดยเพื่อนๆ เราคิดว่าเพื่อนๆ 99.99% ที่อ่านอยู่ตรงนี้ส่วนใหญ่คงอดไม่ได้ที่จะบีบสิวออก ก่อนหัวโผล่ออกมาแน่นอน
สิวหัวดำ ( Blackheads )
มีสิวหัวขาวแล้ว จะขาดสิวหัวดำไปได้ยังไง ซึ่ง สิวหัวดำ หรือ Blackheads เป็นสิวที่เกิดจากการ อุดตันของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมกับต่อมไขมัน ใต้ผิวหนัง คล้ายกับสิวหัวขาวเลย เพียงแต่สิวหัวดำจะเป็น สิวหัวเปิด ที่สามารถสัมผัสกับอากาศภายนอกได้ และทำให้บริเวณที่อุดตันนั้น เปลี่ยนจากสีขาวกลายเป็นสีดำ โดยสิวหัวดำจะไม่เหมือนดับสิวแบบอื่นๆ ตรงที่มันจะไม่เจ็บหรือแดงเลยนั่นเอง
สิวตุ่ม ( Papule )
สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงบวมเล็กๆ ที่หลายๆ คนเรียกกันว่า สิวตุ่ม หรือ Papule โดยสิวตุ่มเป็นสิวที่เกิดจากการ แตกตัวของน้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ภายในผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นเหมือน ตุ่มแดงกระจายรอบๆ ผิวหนัง ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราก็จะไปตอบสนอง ต่อการแตกและอักเสบภายในผิวหนัง ทำให้เราจะเห็นบริเวณที่เป็นสิวตุ่มแดงกว่าบริเวณอื่นๆ นั่นเอง
สิวหัวหนอง ( Pustule )
สิวหัวหนอง หรือ Pustule ที่เรียกได้ว่าเป็น สิวอักเสบที่เป็นแล้วเจ็บ, ชอบทิ้งรอยแผลเป็นไว้ และหายยากอีกตัวเลย เพราะมันจะมีการ สะสมหนองไว้ใต้ผิวหนัง และทำให้เกิดอาการอักเสบขึ้น โดยบางคนอาจจะสับสนระหว่างสิวหัวหนอง กับสิวหัวขาว ตรงที่มันมีหัวสีขาวเหมือนกัน แต่อันที่จริงมันมีจุดที่ต่างกันอยู่ตรงที่ รอบๆ สิวหัวหนอง จะมีการอักเสบเป็นเหมือนวงแดงรอบๆ และเจ็บกว่าสิวหัวขาวที่ไม่ได้เป็นสิวอักเสบ
สิวหัวช้าง ( Nodules )
สิวอีกตัวที่น่ารำคาญ และเป็นปัญหาระดับชาติของเรามาก ถ้าเป็นนั่นก็คือ สิวหัวช้าง หรือ Nodules ที่เป็น สิวอักเสบ ที่มีความใกล้เคียงกับสิวตุ่ม แต่ไม่ใช่เพราะมันมีความฝังลึกมากกว่านั้นมาก และ มันเป็นไปแทบไม่ได้เลยที่เราจะสามารถบีบหัวของมันออกมาได้ง่ายๆ โดยอย่างสิวหัวขาว หรือสิวหัวหนอง ยังถือว่าเอาออกมาได้ง่ายกว่าสิวหัวช้างอีกด้วย แถมเวลาเป็นแล้วบอกเลยว่าเจ็บมากก ถ้าจะให้ดีคือรู้ตัวว่าเป็นแล้วรีบไป รักษาสิว แต่เนิ่นๆ ก่อนมันลามไปจะดีที่สุด
สิวซีสต์ ( Cysts )
สิวซีสต์ หรือ Cysts ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยโดยสิวซีสต์ จะเป็นสิวที่คล้ายกับสิวหัวช้างคือ เกิดจากการอุดตันของน้ำมัน, เซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรีย ใต้ชั้นผิวหนังส่วนลึกที่แดงกว่า และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บกว่า ซึ่งถ้าหากว่าเพื่อนๆ เป็นสิวซีสต์หล่ะก็ ข้อห้ามที่ทุกคนควรรู้ไว้ คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ห้ามแกะเด็ดขาด เพราะถ้าแกะมันจะยิ่งไป กระตุ้นให้เกิดการอักเสบแล้วลามไปกันใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจจะทำให้เราเป็นแผลเป็นได้อีกด้วย สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นสิวซีสต์เราขอแนะนำให้ไปรักษากับคุณหมอจะดีที่สุด
สิวข้าวสาร ( Milia )
มีความต่างจากสิวแบบอื่นๆ ตรงที่มัน ไม่ได้เกิดการอุดตันของไขมัน และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขนจนเกิดการอักเสบ แต่มันจะ เกิดการอุดตันของ Keratin ที่บริเวณใต้ผิวหนัง และทำให้เราเห็นเหมือนกับมีของแข็งสีขาวเล็กๆ ใต้ผิวหนังแทน เรียกว่า สิวข้าวสาร หรือ Milia ซึ่งส่วนใหญ่ บริเวณที่เราเป็นสิวข้าวสาร จะเป็น รอบๆ ตา, โหนกแก้มและจมูก โดยเพื่อนๆ สามารถเอาสิวข้าวสารออกได้ง่ายๆ โดยการใช้ไม้หรือเข็มสะกิดเบาๆ เพียงแต่ถ้ามันฝังลึกเกินไป ก็สามารถใช้การเลเซอร์เอาออกได้
หวังว่าเพื่อนๆ จะได้คำตอบเรื่องสิวที่สงสัยกันอยู่ สำหรับใครที่รู้ประเภทสิวที่ตัวเองเป็นก็น่าจะได้แนวทาง ในการ รักษาสิว ให้ตรงจุดมากขึ้นเนาะ แต่ยังไงเราก็แนะนำให้เพื่อนๆ ล้างหน้าให้สะอาด ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำให้หน้าห่างไกลสิว ครีมกันแดด ป้องกันอันตรายจากรังสี และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นตลอดๆ ยังไง
เจลแต้มสิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com