สเปรย์กันแดด เนื้อเบา เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวกันยูวี

สเปรย์กันแดด เนื้อเบา เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวกันยูวี

ปัญหาผิวถูกทำลายจากแสงแดด ทำให้ผิวไหม้แดด ใช้กันแดดช่วยป้องกันยูวี สเปรย์กันแดด เนื้อเบา เหมาะมากในยุคนี้ที่พกพาสะดวก สามารถฉีดเติมได้ในระหว่างวัน นอกจากนี้ในต่างประเทศก็นิยมสเปรย์กันแดดไม่ว่าจะเป็น สัญชาติเกาหลี สเปรย์กันแดดชนิดสเปรย์สำหรับผิวหน้า และ ผิวกาย หรือสเปรย์ สัญชาติอังกฤษ ที่มีจัดจำหน่ายอยู่เต็มไปหมดให้เราได้เลือกใช้ตามสภาพของแต่ละคน

 

ทำความรู้จักวายร้ายทำลายผิว

รังสียูวี (Ultraviolet-UV Ray) จากดวงอาทิตย์มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ UVA, UVB และ UVC โดยที่ UVC นั้นเป็นแสงคลื่นความถี่สั้น (ความยาวคลื่น 280-100 นาโนเมตร) จะถูกชั้นบรรยากาศโอโซนของโลกทั้งสะท้อนกลับ ดูดซับ และทำลาย ไว้ได้เกือบหมด ไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเราชาวมนุษย์โลกเท่าไร ส่วน UVA เป็นแสงคลื่นความถี่ยาว (ความยาวคลื่น 400-315 นาโนเมตร) มีมากถึงร้อยละ 90 ในแสงแดด มีอำนาจทะลุทะลวงสูง เมื่อโดนผิวหนังของเราจะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้แก่ไว มีริ้วรอยได้ง่าย หากถูกบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดกระ ฝ้า และสะสมนานๆ เข้าก็เป็นมะเร็งผิวหนังได้ สุดท้ายเจ้า UVB หรือแสงคลื่นความถี่ปานกลาง (315-280 นาโนเมตร) อำนาจทะลุทะลวงลดลง หากโดนผิวหนังของเรา มักทำให้เกิดปัญหาผิวหนังแสบ แดง ร้อน ไหม้ดำ การอาบแดดของคนต่างชาติและดาราที่ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำและแทนขึ้น จริงๆ แล้วก็เป็นการทำให้ผิวหนังถูก UVB ปริมาณมากและนานพอที่จะเกิดการแดง ไหม้ และคล้ำขึ้นนั่นเอง

นอกจากรังสียูวีจากดวงอาทิตย์แล้ว แหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ที่เกิดจากการประดิษฐ์ขึ้นมา ไม่ว่าจะหลอดไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ในการทำงานที่ร้อนๆ ก็ส่งรังสีชนิดต่างๆ ที่หากผิวหนังได้รับแล้ว ก็เกิดอันตรายได้เช่นกัน

สเปรย์กันแดด เนื้อเบา

เลือกสเปรย์กันแดดอย่างไรให้ปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

1.ดูบนขวดว่าสามารถใช้ได้กับใบหน้าหรือไม่
ในการเลือกใช้สเปรย์กันแดดนั้น คุณควรจะดูสักนิดว่าข้างขวดได้เขียนไว้หรือไม่ว่าใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย หากสเปรย์ขวดนั้นเขียนไว้ว่า face and body นั่นหมายความว่าสเปรย์กันแดดขวดนั้นสามารถใช้กับใบหน้าได้ แต่หากไม่มีละก็อย่านำมาใช้กับใบหน้าเด็ดขาดเพราะจะทำให้หน้าพังได้

2.ดูส่วนผสมของครีมกันแดด
ในครีมกันแดดหลายๆ ยี่ห้อบางครั้งก็มีส่วนผสมที่คุณอาจจะแพ้ได้ ดังนั้นก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าคุณแพ้สารตัวไหนในเครื่องสำอางหรือเวชสำอางค์อื่นๆ แล้วลองดูที่ส่วนผสมว่าครีมกันแดดตัวนั้นมีส่วนผสมที่คุณแพ้หรือไม่ หากมีคุณจะต้องหลีกเลี่ยงครีมกันแดดยี่ห้อนั้นเด็ดขาด เพราะหากเกิดแพ้ขึ้นมา การรักษาย่อมไม่คุ้มกันแน่นอน

3.ใช้ให้ถูกวิธี
การใช้สเปรย์กันแดดกับใบหน้าที่ถูกวิธีไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะต้องสเปรย์โดยตรงกับใบหน้า แต่เวลาใช้ให้คุณฉีดสเปรย์ลงฝ่ามือก่อน แล้วค่อยใช้มือทาบริเวณใบหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงรอบดวงตาและปากในจุดที่อ่อนไหว ที่สำคัญก่อนคุณจะฉีดสเปรย์กันแดดนั้นควรต้องมีการทดสอบตามข้อพับตัวเองก่อนว่าคุณแพ้หรือไม่ โดยการฉีดทิ้งไว้สัก 15 ถึง 30 นาทีถ้าไม่มีผื่นขึ้นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานได้ แต่หากมีรอยแดงหรือคันนั้นคือคุณใช้ไม่ได้อย่างแน่นอน

4.สเปรย์กันแดดก่อนออกแดด
เมื่อคุณฉีดสเปรย์กันแดดและทาเรียบร้อยแล้วไม่ควรออกแดดในทันที แต่ควรทิ้งไว้ 20 นาทีในร่มเพื่อให้กันแดดนั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และคุณยังสามารถฉีดสเปรย์ซ้ำได้ทุก 2 ชั่วโมงหากแดดบริเวณนั้นแรงมาก ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าสเปรย์ที่คุณซื้อมานั้นกันแดดได้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีการเล่นน้ำถึงอย่างไรก็ต้องมีการสเปรย์ซ้ำก่อนที่จะลงน้ำและหลังจากขึ้นน้ำอีกด้วย

เมื่อทราบวิธีใช้ดังนี้รับรองได้เลยว่าไม่ว่าคุณใช้สเปรย์กันแดดยี่ห้อใด หากใช้ให้ถูกวิธีและรู้จักดูสารต่างๆ จากข้างขวดคุณก็จะเลี่ยงโอกาสที่ทำให้เกิดการแพ้จนทำให้หน้าของคุณพังได้ และนอกจากการใช้ครีมกันแดดแล้ว ก็อย่าลืมปกป้องผิวของคุณด้วยวิธีอื่นๆ ด้วย เพื่อไม่ให้แสงแดดมาทำร้ายผิวของคุณได้นั่นเอง

เลือกครีมกันแดดหรือ สเปรย์กันแดด ที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม (Broad-Spectrum) ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ และ รังสียูวีบี เนื่องจากครีมกันแดดทุกตัวจะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้ และ เป็นมะเร็งผิวหนัง (ควรเลือกที่ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Broad-Spectrum)

ประเภทของครีมกันแดด เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเรา

ครีมกันแดดแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางเคมี ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางกายภาพ และครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะผสมผสานของทั้งสองประเภทข้างต้น หมอจะอธิบายให้ง่ายต่อความเข้าใจ ทำให้คุณผู้อ่านสามารถอ่านฉลากของครีมกันแดดที่เลือกใช้และรู้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้เลยทันที

 

1. ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางเคมี (Chemical Sunscreen)

ครีมกันแดดที่เน้นการดูดซับรังสียูวี การปกป้องจะดีกว่าครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางกายภาพ แต่อาจทำให้เกิดการแพ้ต่อผิวหนังได้มากกว่า ตัวอย่างสารออกฤทธิ์ เช่น สารป้องกัน UVA ได้แก่ Oxybenzone, Dioxybenzone, Avobenzone, Merxorylsx เป็นต้น สารป้องกัน UVB ได้แก่ PABA, Octyl Methoxycinnamate, Octyl Salicylate

 

2. ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางกายภาพ (Physical Sunscreen)

ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะทางกายภาพหมายถึง ครีมกันแดดที่ใช้คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของสารออกฤทธิ์ สามารถสะท้อนรังสียูวี ทั้ง UVA และ UVB ได้ด้วยตัวอนุภาคของมันเอง ครีมจำพวกนี้จะมีประสิทธิภาพในการกันแดดด้อยกว่าครีมกันแดดที่ใช้คุณสมบัติทางเคมี แต่มีข้อเด่นคือ ไม่ก่อการแพ้ให้กับผิวหนังเท่าไรนัก ตัวอย่างครีมกันแดดกลุ่มนี้ ได้แก่ ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) และสังกะสี / ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) โดยที่มักนิยมใช้ในหมู่พริตตี้ งานแสดงโชว์ต่างๆ เพราะเมื่อทาแล้วผิวจะดูขาวสะท้อนแสงมาก มีออร่า การใช้ครีมกันแดดกลุ่มนี้ข้อควรระวังคือ หากทามากเกินไปจะอุดตันรูขุมขน ก่อสิวอุดตันได้ และเวลานั่งบนเบาะรถต้องระวังเนื้อครีมกันแดดจะติดเบาะเป็นคราบได้

 

3. ครีมกันแดดที่ใช้คุณลักษณะผสมผสาน (Chemical-Physical Sunscreen)

ปัจจุบันครีมกันแดดทั้งหลายจะจัดอยู่ในกลุ่มนี้ คือใช้ทั้ง 2 แบบผสมผสานกันในสูตรการผลิต คุณลักษณะมาตรฐานการป้องกันของครีมกันแดด มี 2 ชื่อ ที่เราจะได้ยินบ่อยๆ คือ SPF และ PA+++ ตัว SPF (Sun Protection Factor) เอสพีเอฟเป็นการบอกว่าป้องกัน UVB ได้กี่เท่านั่นเอง แสดงความยาวนานของการป้องกัน UVB ก่อนที่จะทำให้ผิวหนังเริ่มเกิดอาการแดงร้อน การที่มีค่า SPF สูง สะท้อนการปกป้องที่ยาวนานกว่า แต่ไม่ได้บอกว่า ดีกว่า SPF ต่ำตัวอย่าง ครีมกันแดดที่มี SPF30 ป้องกันผิวร้อนแดงได้นาน 30 เท่าของปกติ แม้โดยทั่วไป UVB เมื่อโดนผิวหนังได้ 15 นาที จะทำให้ผิวหนังเริ่มแดงร้อน ครีมกันแดดที่มี SPF30 จึงปกป้องผิวก่อนแดงร้อนได้ 15*30 = 450 นาที ส่วน PA (Protection Grade of UVA) พีเอ เป็นการบอกว่าป้องกัน UVA ได้ดีอย่างไร โดยมีตั้งแต่ +, ++, และ +++ (หนึ่งบวก, สองบวก, สามบวก) หมายถึงมีประสิทธิภาพในการป้องกัน UVA ได้น้อย, ปานกลาง, มาก ตามลำดับ ค่า PA ที่แพทย์แนะนำ คือ ++ (สองบวก) ขึ้นไป ในผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดปัจจุบันที่วางตามท้องตลาดมักจะมีค่า SPF, PA สูงกันมากพอควรแล้ว ผมจึงแนะนำท่านผู้อ่านว่า บทเรียนต่อไปคือ การเรียนรู้วิธีการเลือกและทาครีมกันแดด

เลือก สเปรย์กันแดด ที่ค่า SPF / PA ไม่สูงมากในการใช้ประจำวัน หากต้องทำกิจกรรมอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ การใช้สเปรย์กันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่สูงก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่สำหรับการใช้กันแดดในชีวิตประจำวันแล้ว เลือกสารกันแดดที่มีค่า SPF 20-30 และ PA++ ก็น่าจะเพียงพอ หรือจะลองเลือกสเปรย์กันแดดยี่ห้อที่มีเขียนกำกับไว้ว่าใช้สำหรับผิวหน้าหรือสำหรับเด็กทารกก็ได้ จะได้มั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ค่อนข้างปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผิวคะ

สเปรย์กันแดดที่กันน้ำได้ นอกจากนี้ มันมีกันแดดแบบเนื้อครีม ทริคเลือก กันแดด ให้เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้คนผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้เช่นกัน พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าสามารถกันน้ำได้ หรือถ้าหากต้องโดนน้ำจริงจังอย่างเวลาไปทะเลหรือลงสระว่ายน้ำ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบครีมควบคู่กันไปด้วยเลยจะดีกว่าค่ะ


กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com