สิวอุดตัน สาเหตุ กับอาการสิวอักเสบพร้อมวิธีการรักษา

สิวอุดตัน สาเหตุ กับอาการสิวอักเสบพร้อมวิธีการรักษา

การรบกวนผิวหนังหรือรูขุมขนอย่างรุนแรงก็สามารถทำให้เกิด สิวอุดตัน สาเหตุ ที่เกิดสิวอักเสบ เกิดจากการอุดตันของเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว และไขมันที่มีการผลิตออกมามากเกินไปจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยการอุดตันจะเกิดภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง

สิวอุดตัน คืออะไร

สิวอุดตัน (Comedones) เกิดจากไขมันใต้ผิว มารวมตัวกับสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน ซึ่งสิ่งสกปรกก็มีทั้งฝุ่นละออง เครื่องสำอางที่เราใช้ หรือแม้กระทั่งเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้เกิดการอุดตันขึ้นค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่ทำงานมากเกินไปและส่งผลกระทบกับเซลล์ผิวหนัง รวมถึงการสูบบุหรี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันได้เช่นเดียวกันค่ะ

สิวอุดตัน สาเหตุ

ประเภทของสิวอุดตัน

  1. สิวอุดตันหัวเปิด

สิวประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำบนบริเวณผิวหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เซลล์ผิวที่ตายแล้วและไขมันภายในรูขุมขน เมื่อสิ่งสกปรกตกค้างเหล่านี้มาทำปฏิกิริยาด้วยกันและโผล่พ้นผิวหนังมาสัมผัสออกซิเจน จึงทำให้เปลี่ยนสีดำค่ะ ซึ่งสิวประเภทนี้สามารถที่จะกดหรือบีบออกได้ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการกด เพราะถ้าไม่ระวังก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบได้ค่ะ

  1. สิวอุดตันหัวปิด

หรือสิวอุดตันหัวขาว เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันภายในรูขุมขน แต่ไม่ได้สัมผัสกับอากาศจึงมองเห็นเป็นจุดสีขาวอุดตันอยู่บนผิวหนัง สิวชนิดนี้เป็นสิวที่ไม่ควรแกะหรือบีบออก เพราะว่าอาจจะทำให้ไขมันย้อนกลับเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อเกิดความเสียหายและอักเสบได้ค่ะ

สิวอุดตัน เป็นสิวขนาดเล็กที่เป็นตุ่มนูนอุดตันใต้ผิวหนัง โดยเป็นสิวที่ไม่มีการอักเสบ มักพบบริเวณหน้าผากและคาง แบบได้ 2 แบบ คือ

  1. สิวอุดตัน : ทั้งแบบสิวหัวดำและสิวหัวขาวป้องกันได้ด้วยการล้างหน้าให้สะอาด และควรใช้คลีนซิ่งที่มีส่วนประกอบของไมเซล่าเช็ดหน้าเป็นขั้นตอนแรกแม้ไม่ได้แต่งหน้า เพื่อความสะอาดล้ำลึกถึงระดับรูขุมขน นอกจากนั้น การปรับวงจรการผลัดเซลล์ผิวให้สมดุลอยู่เสมอจะช่วยลดการอุดตันใต้ผิวเป็นสิวหัวขาวได้มาก
  2. สิวอักเสบ : ป้องกันได้ด้วยการดูแลไม่ให้เกิดสิวอุดตัน หรือไม่ให้สิวอุดตันค้างอยู่บนใบหน้านานจนเกินไป นอกจากนั้น การรักษาสมดุลความมันและความชุ่มชื้นบนผิวหน้าเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากในการลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบ สุดท้าย การใช้เคลนเซอร์หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมช่วยจัดการแบคทีเรียสิวได้สามารถลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบได้เช่นกัน

ใช้ผลิตภัณฑ์ รักษาสิว ช่วยละลายหัวสิวอุดตัน ด้วยเพราะมีฤทธิ์เป็นกรดจึงสามารถซึมลงไปปรับการทำงานของรูขุมขน ลดการทำงานของต่อมไขมันในรูขุมขนลงได้ ทำให้สิวอักเสบและอุดตันลดลง

5 วิธีรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง

  1. การล้างหน้าให้ถูกวิธี

การล้างหน้าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการลดสิวได้ และยังสามารถลดสิวได้ในระยะยาวด้วยค่ะ โดยข้างใต้ผิวเราจะมีโพรงขนอยู่เป็นจำนวนมาก การล้างหน้าจะทำให้สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ในส่วนนี้หลุดออกไป ทำให้โอกาสในการเกิดสิวลดน้อยลงและยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ด้วย

 

  1. การสครับผิวหน้า

การสครับผิวหน้าเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปได้ แต่ว่าไม่แนะนำให้ทำในคนที่มีสิวอักเสบ เพราะว่าการสครับผิวหน้า อาจจะรบกวนผิวที่กำลังอ่อนแอ และยิ่งจะทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้นได้ค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะสครับผิวหน้าเราต้องรักษาสิวอักเสบให้หายดีเสียก่อนค่ะ

 

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวอย่างเช่น โทนเนอร์ ครีมและเซรั่ม อย่างโทนเนอร์ก็ให้ใช้หลังล้างหน้าและต้องใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่ะ โดยหน้าที่หลักของโทนเนอร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ในส่วนที่การล้างหน้าขจัดออกไม่หมด ช่วยกระชับรูขุมขน ซึ่งเมื่อรูขุมขนเล็กลง การกดสิวก็จะน้อยลงด้วยค่ะ รวมถึงเรายังสามารถใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก หรือ BHA  ซึ่งสารกลุ่มนี้จะมีคุณสมบัติเด่นๆ คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และลดการเกิดสิวอุดตันได้ค่ะ

 

  1. ใช้แผ่นแปะสิวและแผ่นลอกสิวเสี้ยน

การกดสิว ถือเป็นวิธีที่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ก็จริง แต่อย่างไรก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนทำให้ค่ะ หากต้องการรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเอง อีกหนึ่งทางเลือกนั่นก็คือการใช้แผ่นแปะสิวและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลอกสิวเสี้ยน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นลอกสิวหรือมาส์กหน้าลอกสิว ห้ามใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมืออะไรก็ตามกดสิวเอง เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มได้ ซึ่งเมื่อเกิดการอักเสบหรือเป็นสิวอักเสบขึ้นมาแล้ว ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่โต ทำให้เกิดรอยแผลเป็น เกิดเป็นหลุมสิวตามมา การใช้แผ่นแปะสิวจะสามารถดูดเอาหัวสิวออกมา เพราะว่าแผ่นแปะสิวมีส่วนประกอบของสารที่ช่วยดูดซับของเหลวออกไปได้หรือที่เราเรียกว่าสิวหนองนั่นเองค่ะ

 

  1. ทายาลดสิวอุดตัน

ในคนที่เป็นสิวอุดตัน ก็มียาแต้มสิวหลายตัวที่ช่วยให้สิวยุบได้ ซึ่งนอกจากกลุ่มยาทาแล้ว ก็ยังมีกลุ่มสกินแคร์ที่ช่วยในการรักษาสิวอุดตันได้เช่นกันค่ะ โดยให้มองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือ PHA สารกลุ่มนี้สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตันได้ค่ะ และที่สำคัญสำหรับสาวๆ คนไหนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ จำเป็นที่จะต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพราะสารผลัดเซลล์จะทำให้ผิวบาง ผิวไวต่อแสงมากขึ้น การทาครีมกันแดด จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวค่ะ รวมไปถึงแนะนำให้ใช้ moisturizer ร่วมด้วย เพราะจะทำให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงได้ค่ะ

 

สมุนไพรลดรอยสิวได้ชัวร์ ไม่ต้องกลัวอันตรายต่อผิว

แตงกวา

ส่วนสมุนไพรก้นครัวที่จะมาช่วยลดรอยสิว รักษาหน้าให้กลับมาใสดังเดิมได้นั้น ขอเริ่มต้นกันที่ ‘แตงกวา’ ผักที่สาวๆสายบิวตี้รู้กันดีว่ามีประโยชน์ในการบำรุงความงาม โดยเฉพาะในการให้ความชุ่นชื้นแก่ผิวได้อย่างดี แต่รู้มั้ยว่า ‘แตงกวา’ ยังช่วยรักษารอยสิวอีกด้วย ขั้นตอนก็ง่ายแสนง่ายโดยน้ำแตงกวามาคั้นแต่น้ำ และผสมเข้ากับมะนาว และน้ำผึ้ง นำมาพอกหน้าเอาไว้ซักประมาณ 15-20 นาที ทำเป็นประจำอาทิตย์ละ 3 ครั้ง รับรองหน้ากลับมาใสปิ๊งแน่นอน

 

หอมแดง

ต่อกันที่อย่างที่สอง ที่สาวๆ และหนุ่มๆอาจจะไม่เคยรู้เลยว่ามีประโยชน์ด้านความงามนั่นคือ ‘หอมแดง’ ที่หลายๆคนร้องยี้ แต่เชื่อวัตสันเถอะว่ามันเริ่ด !! เพราะเห็นหัวเล็กๆแบบนี้ แต่อัดแน่นด้วยวิตามินบี ซี แคลเซียม เหล็ก ซัลเฟอร์ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม สังกะสี และโปรตีน ซึ่งสารแต่ละตัวนั้นเป็นอาหารผิวชั้นยอด ช่วยทั้งซ่อมแซม เพิ่มความยืดหยุ่น กักเก็บความชุ่มชื้น และลดรอยสิวได้ดีมากๆด้วย โดยวิธีการก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ล้างหัวหอมแดงให้สะอาด ปอกเปลือกออก สับเป็นชิ้นเล็กๆ และพอกบริเวณรอยดำจากสิว หรือจะพอกบริเวณสิวอักเสบให้สิวหายวับไปก็ได้ แต่ต้องระวังบริเวณใกล้ตา และจมูกด้วยนะ

 

มะขามเปียก

อีกหนึ่งสมุนไพรที่เข้ามาใน TOP 5 รับมงเจ้าแห่งสมุนไพรรักษารอยสิวต้องยกให้ ‘มะขามเปียก’ ที่นอกจากจะเด็ดที่ความเปรี้ยวสะใจแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นกรดตามธรรมชาติ ที่สามารถใช้ในบำรุงผิวได้ด้วย แต่ไม่ใช่ว่าดีแล้วจะนำมาทากันได้ตรงๆนะคะ แต่ต้องมีส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยเพิ่มความปังเข้าไปแบบคูณ 10 โดยสูตรลดรอยสิวนี้ขอแนะนำให้นำน้ำมะขามเปียก มาผสมกับน้ำผึ้ง และนมสด หรือจะเปลี่ยนจากนมสดเป็นโยเกิร์ตเพื่อเนื้อที่อยู่ตัวก็ได้ แล้วนำมาพอกหน้าเอาไว้ รอซัก 10-15 นาที แล้วค่อยขัดๆวนๆก่อนล้างออก ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และรักษารอยสิวให้หน้ากลับมาใส เป๊ะเว่อ ชนะเลิศศศศศ

หัวไชเท้า

อีกหนึ่งสมุนไพรที่ปังไม่แพ้กัน และอาจจะนึกไม่ถึงว่าจะช่วยลดรอยสิวได้นั่นคือ ‘หัวไชเท้า’ หลายคนก็คงสงสัยว่าติดเข้ามาในลิสต์นี้ได้ยังไงนะ แต่ใจเย็นก่อน วัตสันขอเล่านิดนึง จริงๆแล้ว ‘หัวไชเท้า’ มีสารไกลโคไซ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่ช่วยรักษารอยสิว ฝ้า กระ ลดสิวอักเสบ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น โดยสูตรนี้แนะนำให้นำหัวไชเท้าไปปั่นให้ละเอียด เก็บใส่ตู้เย็นไว้ เมื่อจำนะมาใช้ให้แบ่งออกมาผสมกับดินสอพอง และน้ำผึ้ง แล้วจึงนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 15-20 นาที แต่แอบกระซิบว่าสูตรนี้ไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายนะยูว์

มะเขือเทศ

สมุนไพรที่ติด TOP 5 รับมงเป็นตำแหน่งสุดท้ายนั่นคือ ‘มะเขือเทศ’ ที่ช่วยรักษารอยสิวได้ดีเยี่ยม และยังช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยสดใส ใช้ได้ทั้งกิน และทั้งทา แต่ถ้าอยากลดรอยสิวแบบเป๊ะปัง สูตรนี้ขอแนะนำให้ใช้ทา โดยวิธีการก็ง่ายเว่อ เพียงแค่นำมะเขือเทศล้างสะอาดมาปั่นให้ละเอียด แล้วพอกหน้าไว้ 20 นาที สั้นๆ ง่ายๆ แต่เป๊ะจริง หรือใครจะ adapt สูตร เพิ่มโยเกิร์ตนิด น้ำผึ้งหน่อย ก็แล้วแต่ชอบไม่ห้ามกันนะ

นอกจากนี้ รักษสิว ด้วย ผลไม้ที่มีสาระสกัดจากผลไม้คามูคามู แนะนำ KANDA Camu-Camu Acne Gelกันดะ คามูคามูแอคเน่เจล เป็นเจลแต้มสิว มีส่วนผสมของสารสกัดคามูคามู ที่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสุดยอดผลไม้ มีผลการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเป็นแหล่งของวิตามินซีสูงสุด ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลิอิสระและต้านการอักเสบ จึงลดการอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวหนอง สิวด้าน สิวหัวช้าง ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน จึงปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว

นอกจากเจลแต้มสิวในการลดอาการอักเสบของสิวที่เราจะต้องเลือกให้เหมาะกับผิวของตัวเอง การเลือกใช้ตัวช่วยปกป้องผิว จาก รังสียูวี ทาครีมกันแดด จากรังสียูวีมี 3 ประเภท ทำอันตรายต่อผิวของเราทำให้ผิวคล้ำและเกิดจุดด่างดำ เลือกที่มีค่าการปกป้องSPF 50 / PA +++ จะช่วยเป็นเกราะป้องกันผิวจากแสงแดดได้ดีที่สุดนะค่ะ


กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com