สิวผด ปัญหากวนใจ ทำยังไงให้หาย
สาเหตุ
- ความร้อนและแสงแดด ซึ่งทำให้ร่างกายมีเหงื่อออกมาจนต่อมเหงื่อไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้หมด ส่งผลให้เกิดการอุดตันเป็นตุ่มสิวเล็ก ๆ แต่ไม่มีหนองหรือหัวสิว โดยมักเกิดหลังจากออกแดดไปแล้ว 1-3 วัน และหายเองได้ เพียงแต่อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ มักไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ยกเว้นแคะ แกะ เกา บีบ สิวจนทำให้เกิดการติดเชื้อเพราะสิวผดอาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันได้ สภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามาก ผิวภายนอกมีสภาพชื้นแฉะ และยิ่งหน้าถูกแสงแดดต่อมเหงื่อก็ถูกกระตุ้นให้กลายเป็นสิวได้ และเมื่อสัมผัสกับฝุ่นละอองทำให้เกิดการสะสมก่อตัว เกิดการระคายเคือง
- อาการแพ้สารประกอบในผลิตภัณฑ์ ดูแลหรือประทินผิวต่าง ๆ เช่น เครื่องสำอาง ครีม กันแดด น้ำหอม รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว จนอาจทำให้เกิดอาการแพ้
- การล้างหน้าไม่ถูกวิธี เช่น การล้างด้วยน้ำอุ่น ล้างบ่อย ๆ รวมถึงการเช็ดหน้าแรง ๆ หลังล้างหน้าเสร็จ ซึ่งทำให้ใบหน้าระคายเคือง
- ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราในกลุ่มมาลาสซีเซีย (Malassezia)
- อาการแพ้ จากมลภาวะต่าง ๆ เช่น น้ำ ฝุ่น ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่อ่อนแอ
ผู้ที่มีโอกาสเป็นสิวผดส่วนใหญ่คือ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การใช้ Skincare สำหรับคนเป็นสิว ซึ่งมักผสมกรดลอกผิว เช่น กรดผลไม้ กรดเรตินเอ หรือสเตียรอยด์ การทำทรีทเมนท์แบบ Peeling การเลเซอร์ การแต้มยารักษาสิวต่อเนื่องนานๆ โดยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่านั่นเป็นการทำร้ายผิว ทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย และเสียสมดุล อีกกลุ่มคือผู้ที่พออายุมากขี้นผิวเริ่มแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งมักจะอ่อนแอ แพ้ง่ายกว่าผิวมันเนื่องจากขาดฟิลม์เคลือบปกป้องผิวตามธรรมชาติ
- ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย : อันนี้เป็นลักษณะผิวที่ไม่แข็งแรงหรือเกราะป้องกันตามธรรมชาติถูกทำลาย เมื่อเจอสิ่งกระตุ้น สิวผดจะมาทันที เช่น
– แพ้เหงื่อ
– แพ้ฝุ่น
– แพ้อากาศร้อนหรือเย็นจัด
– แพ้มลภาวะในอากาศหรือควันท่อไอเสียจากรถ
– ใช้ครีมอะไรก็แพ้ไปหมด - แพ้เพราะพฤติกรรม: ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ เช่น
– พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
– ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเป็นประจำ ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง
– ใช้ยาแต้มหรือผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิว ซึ่งมักมีส่วนประกอบของกรดลอกผิว ทำให้ผิวบาง
– การล้างเครื่องสำอางหรือครีมกันแดดออกไม่หมด ทำให้เกิดสารเคมีตกค้าง
– แพ้อาหารบางชนิด เช่น อาหารทะเล หรือนมวัว
วิธีรักษา
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
- ทาครีมกันแดด ทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน บริเวณใบหน้า ลำคอ และผิวหนังในส่วนที่อาจต้องสัมผัสกับแสงแดด เช่น แขน ขา เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ โดยครีมกันแดดควรมีค่า SPF 30 ขึ้นไป หากกังวลว่าจะมีอาการแพ้ หรืออุดตัน อาจใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติปราศจากสารเคมี เนื้อบางเบา ครีมที่ไม่มีส่วมผสมของอิมัลซิไฟเออร์และไขมัน และเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว หากผิวมันอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบของเจลหรือสเปรย์
- หลีกเลี่ยงการออกแดดเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดผิวหนัง หรือหาอุปกรณ์ป้องกันหากต้องอยู่กลางแจ้ง เช่น หมวกปีกกว้าง ร่ม ผ้าคลุมศีรษะ แว่นตากันแดด
- ล้างหน้าอย่างถูกวิธี เช่น ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อป้องกันอาการแพ้จากสารที่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง หรือทำให้ใบหน้าหน้าแห้ง และหลีกเลี่ยงการเช็ดหรือขัดถูหน้าแรง ๆ
-
ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ ใน 1 วัน ล้างหน้าแค่ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รวมถึงควรเลี่ยงการล้างหน้าแรงๆ
-
ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือบำรุงผิวหน้าก็ตาม รวมถึงครีม กันแดด และควรล้างออกให้สะอาด เพื่อป้องกันการเกิดสิวผดหรือสิวอุดตันได้ในภายหลัง
-
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว หากต้องการป้องกันสิวทุกชนิดและยับยั้งไม่ให้มันลุกลาม ด้วยการฝึกตัวเองและยับยั้งห้ามใจไม่ไปรบกวนผิวหน้า เช่น การนวดหน้า ขัดหน้า เช็ดถูหน้า คุ้ย แคะ แกะเกาใบหน้าบ่อยๆ เพราะบางคนเป็นสิวก็เกิดความกังวลและลูบไล้ใบหน้าอยู่บ่อยๆ จนลืมไปว่ามือเราไม่สะอาด และอาจเป็นการไปกระตุ้นสิวที่มีอยู่แล้วให้ลุกลามมากยิ่งขึ้นได้
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควรหันมารับประทานผักและผลไม้ พยายามเสริมแร่ธาตุอย่างสังกะสี (Zinc) เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น รักษาสิว สิวผด อักเสบและดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายภายในให้เย็นและชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวพรรณและใบหน้าสดใส
-
ไม่เครียด ความเครียดมีส่วนทำให้ต่อมไขมันต้องทำงานหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ ดังนั้น เราจึงควรพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ อย่าเครียดค่ะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ทั้งนี้ ยังรวมถึงต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ใบหน้าของเราก็ห่างไกลจากสิวผดได้แล้ว
-
สูตรพอกหน้ารักษาสิว
-
🍳สูตรไข่ขาว
-
นำไข่แดงแยกออกเอาเฉพาะไข่ขาว
-
ล้างหน้าของเราให้สะอาด แล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
-
-
🍅สูตรมะเขือเทศผสมโยเกิร์ต
-
นำมะเขือเทศมาสับให้ละเอียด
-
โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับมะเขือเทศที่สับเตรียมไว้
-
จากนั้น นำมาพอกใบหน้าบริเวณที่เกิดสิวผด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที
-
ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
-
-
🍯สูตรน้ำผึ้ง
-
ล้างหน้าให้สะอาด
-
นำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
-
ทาบริเวณที่เป็นสิวผด ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
-
-
-
หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยา ที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น เช่น Retinoic acid, Benzoyel peroxide AHA, BHA
-
ปรึกษาแพทย์ผิวหนังรักษาสิวผด วิธีนี้จะช่วยรักษาสิวผดได้อย่างปลอดภัย และยังเป็นการป้องกันการเกิดสิวผดอย่างถาวร ซึ่งเป็นการรักษาสิวผดตั้งแต่สาเหตุและรักษาสิวผดอย่างถูกวิธี ที่สำคัญก็คือ ไม่ควรซื้อยามารับประทานหรือรักษาสิวด้วยตนเอง เนื่องจากยารักษาสิวส่วนมากมักมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
-
รักษาสิวผดด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากทำครั้งเดียวก็สามารถรักษาสิวผด และสิวอุดตันได้ทั่วทั้งใบหน้าอย่างทันใจ แต่อาจจะทิ้งรอยดำไว้บ้าง สามารถทาครีมลดรอยดำได้ในภายหลัง อย่างไรก็ดี ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าปัญหาสิวผดจะดูไม่น่ากลัว แต่ก็เป็นปัญหากวนใจไม่น้อย หากปล่อยไว้นานอาจถึงขั้นลุกลามจนเป็นปัญหาผิวใหญ่โตได้เลยทีเดียว กู้หน้าพัง จบปัญหาพฤติกรรม ที่ทำให้ผิวเสีย ฉะนั้น หากมีความผิดปกติหรือการระคายเคืองเล็กน้อยกับผิวหน้าก็ไม่ควรละเลย อยากให้หมั่นสังเกตตัวเองว่ามีพฤติกรรมใดบ้าง ที่เวลาคุณทำสิ่งนั้น แล้วเกิดมีสิวผดขึ้นที่ผิว และพยายามหลีกเลี่ยง ก็จะช่วยให้การรักษา สิวผดเห็นผล และคุณได้ผิวหน้าที่เนียนใสกลับคืนมาควรรีบหาสาเหตุที่แท้จริงและหลีกเลี่ยงต้นเหตุของปัญหาผิวจะดีที่สุด
สเปรย์กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com