สกินแคร์ ใช้ยังไงให้คุ้มค่าและเห็นผล
เคยรู้สึกว่าซื้อสกินแคร์มาแล้ว ไม่คุ้มเงินที่จ่ายไปกันไหม … ? เชื่อว่าทุกคน น่าจะต้องเคยบ้างแหละเนอะ อาจจะซื้อเพราะอ่านคำเคลมมา หรืออาจจะซื้อเพราะรีวิวก็แล้วแต่ แต่ประเด็นคือซื้อมาแล้วไม่เห็นผล แถมราคาก็ไม่ใช่ว่าจะถูก ๆ ซะด้วย แบบนี้ก็ต้องหาทางแก้แล้วละซิ สกินแคร์ ใช้ยังไงให้คุ้มค่าและเห็นผล ซึ่งทางแก้บอกเลยว่าไม่ยาก แค่ทำตาม 7 ขั้นตอน ที่เราจะบอกต่อไปนี้ รับประกันเลยว่า ทุกคนจะสามารถใช้และซื้อสกินแคร์ได้อย่างคุ้มค่ามีประสิทธิภาพ เห็นผลได้ชัดเจนแน่นอน
บอกต่อ 7 ทริคใช้ ” สกินแคร์ ” ยังไงให้คุ้มค่าและเห็นผลมากที่สุด
รู้สภาพผิวของตัวเอง
สภาพผิวก็คือ ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ก็สำคัญมาก ๆ ล่ะ ถ้าเรารู้แล้ว ว่าเรามีสภาพผิวแบบไหน จะทำให้เราเลือกซื้อ ครีมบำรุงหน้า มาใช้ได้ถูกต้อง แล้วเราก็จะใช้มัน ได้อย่างคุ้มค่า และเห็นผลชัดที่สุด ซึ่งวิธีการเช็คเบื้องต้น ก็ง่ายแสนง่าย ก็แค่ล้างหน้าตามปกติเลย ใช้โฟมล้างหน้าที่ใช้ประจำได้เลย ไม่ต้องใช้ผ้าเช็ดนะ ปล่อยให้มันแห้งเอง แล้วก็รอให้เวลาผ่านไป ประมาณ 30 นาที ถ้าผิวรู้สึกตึงมาก แทบขยับไม่ได้ ก็แสดงว่าเราเป็นคนผิวแห้ง ถ้ามันแค่ช่วง T-zone ( หน้าผาก จมูก และคาง ) แสดงว่า เป็นคนผิวผสม ถ้ามันทั้งหน้า แสดงว่าเป็นคนผิวมัน ส่วนคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลย ก็แสดงว่าเป็นคนผิวธรรมดา คนผิวแพ้ง่าย อาจจะทดสอบวิธีนี้ไม่ได้นะ ให้สังเกต เวลาใช้สกินแคร์แทน ว่าเราแพ้บ่อยไหม ถ้าใช้แล้วแพ้นั่นแพ้นี่ไปหมด แสดงว่าเป็นคนผิวแพ้ง่ายนั่นเอง
รู้ปัญหาผิวของตัวเอง
นอกจากรู้สภาพผิวของตัวเองแล้ว ว่าเป็นคนผิวแบบไหน ก็ต้องรู้ด้วยว่าตัวเองมีปัญหาผิว ในเรื่องไหน เช่น เราเป็นคนหน้ามัน แต่ผิวมีขุย มีลอก รู้สึกว่าผิวตึง ๆ หลังล้างหน้า แสดงว่าเป็นคนที่ผิวมันขาดน้ำนั่นเอง ซึ่งปัญหาผิวหน้าที่เบสิค ๆ มักจะพบได้บ่อย ๆ ก็จะมีรูขุมขนกว้าง ผิวขาดน้ำ / ขาดความชุ่มชื้น เป็นสิวง่ายหมองคล้ำ หรือมีจุดด่างดำ เป็นต้น เมื่อเรารู้แล้วว่าปัญหาผิวเรา คืออะไรก็จะทำให้เรา เลือกซื้อสกินแคร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผิวที่สุดนั่นเอง รับรองเลยว่า ถ้าเจาะถูกจุดใช้ยังไงก็คุ้มค่าและเห็นผลแน่นอน
ลองซื้อเทสเตอร์มาใช้ก่อน
ถ้าสกินแคร์ ที่เราไป สอดส่องสรรพคุณ และรีวิวมาเรียบร้อยแล้วเนี่ยมีเทสเตอร์ ( Tester = ขนาดทดลอง ) ก็ให้ลองซื้อเทสเตอร์มาใช้ก่อน จะดีที่สุดเลย เพราะว่าเทสเตอ ร์จะมีปริมาณที่ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป ราคาไม่ได้สูงเท่าขนาดจริง ถ้าเราใช้แล้ว เกิดอาการแพ้ หรือคันขึ้นมาก็จะได้รู้สึกไม่เสียดายเท่าไหร่นั่นเอง มันอาจจะต้องเสียเงินหลายขั้นหลายตอนนะ แต่เพื่อไม่ให้ผิวหน้าเราพังเนื่องจากแพ้สกินแคร์ ก็ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นเลย โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายนะ ขอบอกไว้เลยว่า สิ่งนี้ควรทำมาก ๆ เพราะผิวของเรา ค่อนข้างที่จะไว ต่อส่วนผสมบางอย่างในสกินแคร์ การซื้อเทสเตอร์มาลองก่อน จะปลอดภัยกับผิวหน้าของเราที่สุด
ลองทดสอบการแพ้ก่อนใช้จริง
ได้เทสเตอร์มาแล้ว อย่าเพิ่งรีบเอาไปทาผิวหน้านะ ต้องทดสอบการแพ้ก่อน หน้าพังขึ้นมาไม่คุ้มนะ ซึ่งวิธีการทดสอบบอกเลยว่าง่ายสุด ๆ ให้เราเลือกป้ายสกินแคร์ไปที่ผิว บริเวณข้อพับตรงท้องแขนหรือหลังใบหูก็ได้ ที่ให้เลือก 2 ส่วนนี้ ก็เพราะว่าเป็นจุดที่ ผิวมีความบอบบางที่สุด ถ้าทาตรงบริเวณผิวบอบบาง แล้วไม่แพ้ก็แสดงว่าผิวหน้าเราน่าจะใช้ได้ จากนั้นทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน ถ้าได้เทสเตอร์มาในช่วงเย็น ๆ ก็แนะนำว่าให้อาบน้ำก่อนป้ายนะ หลังจากนั้นก็ปล่อยใจได้เลย รอดูว่ามีอาการอะไรไหม ถ้าไม่มีก็แสดงว่าปลอดภัย แต่ถ้ารู้สึกคัน หรือมีผื่นขึ้น แสดงว่าเราแพ้สกินแคร์ตัวนี้นั่นเอง แล้วก็ถ้ามีอาการที่มากกว่า แค่การคัน หรือผื่นขึ้นก็อย่าลืมไปพบแพทย์นะ ไม่งั้นอาจจะอันตรายได้
ถ้าไม่แพ้ก็ลองทาลงบนผิวได้เลย
ถ้าใครทาแล้ว ไม่แพ้ก็เอามาใช้ทา บนผิวหน้าได้เลย แต่ไม่ใช่ว่า จะลงซี้ซั้วมั่ว ๆ ได้ ต้องลงตามขั้นตอน ของสกินแคร์ด้วย จะเอาตัวที่เนื้อหนักมาลงก่อน ตัวที่เนื้อบางเบา ก็คือใช้ยังไงก็ไม่เห็นผล ให้เราเริ่มจากสกินแคร์ตัวที่ เนื้อบางเบา ไปจนถึงเนื้อที่หนักที่สุด แต่ใด ๆ ก็ตามต้องอ่าน วิธีการใช้ก่อนด้วยนะ เพราะสกินแคร์บางตัว ก็อาจจะต้อง ลงหลังจากเช็ดโทนเนอร์เลยก็มี ซึ่ง ถ้าเราไปใช้เขาในขั้นตอนอื่น ๆ อาจจะทำให้สกินแคร์ตัวนั้น ใช้แล้วไม่เห็นผลได้เหมือนกัน ก็จะทำให้เสียดายเงิน โดยใช่เรื่อง รู้แบบนี้แล้ว ก็อ่านวิธีใช้ก่อนเสมอนะ ถ้าไม่มีแจ้งไว้ ก็ให้ยึดหลักการ จากเนื้อของสกินแคร์ จากเบา – หนักได้เลย
ใช้ปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละชนิด
สกินแคร์ ครีมบำรุงหน้า มีหลากหลายแบบมาก ไม่ว่าจะ น้ำตบ แอมพูล เซรั่ม อีมัลชัน โทนเนอร์ ครีม มาสก์ ฯลฯ มากมายก่ายกอง แต่ถ้าเราใช้มันในปริมาณที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไป ก็จะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์หรืออาจจะทำให้ผิวมีปัญหามากขึ้นได้ด้วย วิธีการสังเกตว่าเราใช้น้อยไปหรือมากไปก็ง่าย ๆ เลย ถ้าน้อยไปก็จะเกลี่ยไม่ทั่วหน้า แต่ถ้ามากไปก็จะซึมเข้าสู่ผิวได้ช้า แถมยังอาจจะทำให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะหรือมันเยิ้มได้ด้วย ถ้าไม่อยากใช้สกินแคร์ไม่คุ้มค่า สกินแคร์แต่ละตัวใช้ในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
- ตัวไหนใช้แล้วเห็นผล ก็ซื้อไซซ์จริงไปเลย!
สกินแคร์ หรือครีมบำรุงผิว จะใช้ให้เห็นผล อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ไม่มีครีมตัวไหนที่จะเห็นผลภายใน วัน สองวันหรือพูดง่าย ๆ ว่าต้องใช้อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไปนั่นเอง ซึ่งเทสเตอร์บางตัวยังไม่ถึง 1 เดือนก็หมดก่อนด้วยซ้ำ ก็ให้ทุกคนสังเกตว่า หมดขวดเทสเตอร์แล้วผิวดีขึ้นไหม ถ้ารู้สึกว่าใช้แล้วดีขึ้น แบบรู้สึกได้ก็สามารถซื้อไซซ์จริงได้เลย รับรองว่าซื้อไซซ์จริงมาแล้ว ใช้ได้อย่างคุ้มค่า และเห็นผลแน่นอน เพราะเราได้เลือกสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับสภาพผิว และปัญหาผิวมาแล้วเรียบร้อย แถมยังทดสอบการแพ้แล้วด้วย
แต่ถ้าใช้แล้ว ไม่เห็นผลเลยว่ามันจะดีขึ้น ใช้ไซซ์จริงก็แล้ว อะไรก็แล้ว ลองมาเช็คให้ชัวร์ด้วยบทความนี้กันเลยค่า ช่วยไขข้อข้องใจได้แน่นอนเลย เป็นยังไงกันบ้าง กับวิธีการเลือกซื้อ และเลือกใช้สกินแคร์ให้คุ้มค่า และเห็นผลมากที่สุด ไขข้อข้องใจ สิวเกิดจากอะไร? หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้ทุกคน ใช้สกินแคร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สกินแคร์ก็ไม่ได้ราคาถูก ๆ อะเนอะ ดังนั้น ก็ต้องเลือกให้ดี ให้คุ้มค่าและเห็นผลที่สุด
เซรั่ม กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com