วิตามินต้านสิว vs เจลแต้มสิว ในการแก้ไขปัญหาสิว

วิตามินต้านสิว vs เจลแต้มสิว ในการแก้ไขปัญหาสิว

ปัญหาผิวอันดับหนึ่ง คือ เรื่องสิว สารพันปัญหาผิวหน้า ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ต้องเจอตั้งแต่วัยรุ่นก็ คือ สิว (Acne) โดยปัญหาสิว ถือเป็นปัญหาโรคผิวหนัง ที่พบบ่อยมากที่สุด วิตามินต้านสิว vs เจลแต้มสิว บางคนเป็นๆ หายๆ แต่บางคนเป็นเรื้อรัง หรืออักเสบบ่อยครั้ง ซึ่งก็สร้างความรำคาญใจ และลดทอนความมั่นใจให้น้อยลง

วิตามินต้านสิว vs เจลแต้มสิว ในการแก้ไขปัญหาสิว

ปัญหาสิวเกิดจากอะไร?

ต้นเหตุปัญหาของสิวที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสรุปมาเกิดได้จาก 4 สาเหตุสำคัญด้วยกัน คือ

💥ปัญหาการอุดตัน ต่อมไขมันและรูขุมขน
ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศ คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตัน ของต่อมไขมันและรูขุมขน ทำให้ฮอร์โมนแอนโดรเจน จะไปกระตุ้น การสร้างผิวชั้นนอก และไปกระตุ้นการทำงาน ของต่อมไขมันให้สร้างไขมัน และขับออกมามากผิดปกติ จนทำให้เกิดการอุดตัน ของต่อมไขมันที่เรียกว่า คอมมิโดน (comedone) และเมื่อต่อมไขมัน ที่อุดตันมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จะเห็นเป็นเม็ดเล็กๆ เรียกว่า ‘สิวหัวขาว’ หรือสิวหัวปิด แต่เมื่ออากาศผ่านเข้าสู่หัวสิว จนทำปฏิกิริยากันจะกลายเป็น ‘สิวหัวดำ’ หรือสิวหัวเปิด

💥ปัญหาต่อมไขมันผลิตไขมันมากผิดปกติ

สาเหตุหลักของปัญหาสิวในเพศชายมักเกิดจากเนื่องจากฮอร์โมนเพศในร่างกายที่มีแตกต่างกัน โดยเฉพาะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่มีมากเกินไปจะส่งผลทำให้ต่อมไขมันขยายใหญ่และหลั่งน้ำมันออกมามากขึ้น

💥ปัญหาการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

สิวที่เกิดการอุดตัน ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Propionibacterium acne (P.acne) จะทำให้เชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน มีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และแบคทีเรียเหล่านี้จะย่อยสลายไขมันเปลี่ยนเป็นกรดไขมันส่งผลให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคือง เป็นตุ่มนูนแดง หรือเป็นหนองเกิดการอักเสบในที่สุดเรียกว่า ‘สิวอักเสบ’

💥ปัญหาการรับประทานอาหารบางชนิด ขาดสารอาหาร และอื่นๆ

แต่ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใด สิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ นั่นก็คืออาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน เพราะอาหารบางประเภทที่มีไขมันสูง เช่น เค้ก นม เนย คุกกี้ กะทิ อาหารทอด ช่วยกระตุ้นการเกิดสิวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความเครียด การขาดสารอาหาร และปัญหาภาวะทางสุขภาพบางอย่างเช่น ท้องผูก ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาสิวได้เช่นกัน

 

ถ้าหากวินิจฉัยแล้วว่าสิวที่เกิดขึ้นมาจากปัจจัยเหล่านี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เช่น เมื่อเกิดความเครียดก็ควรหาเวลาออกกำลังกาย เพื่อผ่อนคลาย ถ้าเป็นคนท้องผูกก็ควรรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงประเภทผักผลไม้ให้มากขึ้น รวมทั้งดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

ประเภทของสิวที่พบได้บ่อยมีกี่ประเภท?

💉สิวเสี้ยน สิวผด หรือสิวเทียม

เป็นลักษณะสิวที่เป็นผดเม็ดเล็กๆ พบได้มากบริเวณหน้าผากและแก้ม จะมีดูเป็นสิวที่มีลักษณะชัดเจน

💉สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ

เป็นลักษณะของสิวที่มีรูปเปิดออก บริเวณผิวภายนอก สามารถสังเกตเห็นเป็นจุดสีดำ มกจะไม่มีการอักเสบ และสามารถหลุดออกได้เอง

💉สิวอุดตัน หรือสิวหัวขาว

เป็นลักษณะของสิวที่เกิดจากการสะสมของไขมันเป็นก้อนอุดตันอยู่ภายในที่เรียกว่า คอมิโดน (Comedone) ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอักเสบในเวลาต่อมา

💉สิวอักเสบ

เป็นลักษณะของสิวอุดตันหรือสิวหัวขาวที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า P. Acne ซึ่งเป็นสิวที่ทำให้เกิดการอักเสบ เห็นเป็นรอยนูนแดงได้อย่างชัดเจน แต่ถ้ามีการอักเสบที่รุนแรงขึ้นจนลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังจนเป็นหนองฝังอยู่ภายในก็จะเรียกว่า ‘สิวหัวช้าง’

วิตามินต้านสิว คืออะไร?

หนึ่งในวิธีในการนำมาแก้ปัญหาสิว ที่เห็นผลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็คือ การรับประทานวิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยลดการอักเสบ และการเกิดสิวจากภายใน รวมทั้งยังช่วยป้องกันรอยดำและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการเกิดสิว ลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งที่มาของปัญหาสิว และวิตามินต้านสิวยังช่วยให้หน้าใสได้อีกด้วยโดยสารอาหารที่มีบทบาทแก้ปัญหาสิวในสูตรวิตามินต้านสิวได้แก่

🔴แร่ธาตุสังกะสี (Zinc)

เป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทเสมือนเป็นวิตามินต้านสิว มีส่วนช่วยลดการอักเสบ และการติดเชื้อของสิว และทำให้แผลที่เกิดจากสิวอักเสบหายเร็วขึ้น และยังมีอีกคุณสมบัติที่ดีในการช่วยลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยลดปัญหาสิวจากฮอร์โมนได้อีกด้วย มีการศึกษาวิจัยในต่างประเทศพบว่าแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) มีประสิทธิภาพ ในการลดความรุนแรงของการเกิดสิว ได้ถึง 70% เทียบเท่าการใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ดื้อยา และปลอดภัยมากกว่า

🟠วิตามินซี (Vitamin C)

เป็นวิตามินที่ขึ้นชื่อในการดูแลผิวพรรณ จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งในสารอาหารที่แนะนำของสูตรวิตามินต้านสิว โดยจะช่วยเสริมคอลลาเจนทำให้แผลเป็นที่เกิดจากสิวดูตื้นยิ่งขึ้น และช่วยยับยั้งการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสี สามารถช่วยทำให้รอยดำคล้ำจากสิวลบเลือนได้ จึงทำให้ใบหน้าหลังจากเกิดสิวไร้รอยแผลเป็น และผิวหน้าขาวเนียนใส

🟡วิตามินอีจากธรรมชาติ (Natural Vitamin E)

ด้วยบทบาทของวิตามินอี ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อม พร้อมช่วยสร้างเซลล์ผิว ทำให้แผลเป็นหายเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของสารอาหารอื่นๆ ในสูตรวิตามินต้านสิว เช่น เบตาแคโรทีน และวิตามินซี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

🟢เบต้าแคโรทีนจากธรรมชาติ (Natural Betacarotene)

เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่ได้จากธรรมชาติ โดยเบต้าแคโรทีน ถือเป็นอีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะไปช่วยปกป้องผิวหน้าจากอนุมูลอิสระ ในแสงแดดอันเป็นสาเหตุหนึ่ง ในการเกิดสิว จึงเป็นอีกหนึ่งสารอาหาร ในสูตรวิตามินต้านสิวที่มีบทบาทมากต่อการต่อต้านป้องกันสิว และมีความปลอดภัยมากกว่าวิตามินเอ หรือกรดวิตามินเอ

🔵แร่ธาตุโครเมี่ยม (Chromium Picolinate)

แร่ธาตุชนิดนี้จะช่วยในการปรับสภาพผิวโดยเฉพาะมีคุณสมบัติที่ดีในการช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าอันต้นเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยสมานผิวจากรอยแผลเป็น รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำของแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) และวิตามินอื่นๆ ในสูตรวิตามินต้านสิวอีกด้วย

มีผลการศึกษาวิจัย ในการแร่ธาตุสังกะสีร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระ ภายใต้สูตร APC กับกลุ่มคนที่เป็นสิวอักเสบต่อเนื่อง 3 เดือน พบว่าร้อยละ 79 ของคนที่เป็นสิว อาการสิวดีขึ้นกว่า 80-100%

เจลแต้มสิว (Acne Gel)

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหา ร่วมกับวิตามินต้านสิว นอกเหนือจากวิตามินต้านสิว ที่สามารถแก้ปัญหาสิวอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ผู้ที่เป็นสิว ใช้ เจลแต้มสิว ควบคู่ไปกับการรับประทานกลุ่มวิตามินต้านสิว เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งเจลแต้มสิวที่จะให้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาสิวบนใบหน้าที่ดีต้องประกอบไปด้วย

🔴ไฟโตสปินโกซีน (Phytospingosine)

สารที่ได้จากธรรมชาติชนิดนี้ จะช่วยป้องกันแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว โดยไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้า

🟠ซิงค์ พีซีเอ (Zinc PCA)

มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยปรับการหลั่งไขมัน จากต่อมไขมันที่ผิว

🟡กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid)

มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และเร่งการหลุดลอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ที่สำคัญยังช่วยลดรอยด่างดำที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดี

🟢อาเลนโทน (Allantoin)

หนึ่งในส่วนประกอบของ เจลแต้มสิว ที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยบรรเทาการอักเสบ ลดการระคายเคืองผิวและสมานผิวให้กลับมาเกลี้ยงเกลานุ่มนวล

ประสิทธิภาพของวิตามินแต้มสิว + เจลแต้มสิวในการแก้ปัญหาสิว

มีงานวิจัยที่จัดทำขึ้นในกลุ่มชายหญิงอายุระหว่าง 18-45 ปี โดยบริษัท Spincontrol Asia Co., Ltd. ได้ทำการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการใช้วิตามินต้านสิวกับยาแต้มสิวในการรักษาปัญหาสิว โดยวิธีการวิจัยจะแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 เป็นผู้ที่มีปัญหาสิวหัวหนองชนิดหัวเปิด กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ที่มีสิวอักเสบและมีหนอง และกลุ่มสุดท้ายเป็นผู้ที่มีสิวอักเสบที่มีหนอง และมีหนองลึกลงไปใต้ผิวหนัง ในการศึกษาต่อเนื่องเป็นเวลา 2 เดือน

ซึ่งผลการวิจัยพบว่า 95 % พอใจในวิธีการรักษา 91 % พอใจในการลดลง ของการอักเสบ 100 % จำนวนสิวลดลงอย่างชัดเจน 100 % การอักเสบของสิวลดลง และ 100 % รอยแผลที่เกิดจากสิวลดลง อย่างชัดเจน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การแก้ปัญหาด้วยการรับประทานวิตามินต้านสิว ควบคู่กับการใช้เจลแต้มสิว เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์สูงสุดในการแก้ปัญหาสิวทุกประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไขข้อข้องใจ ปัจจัยจากฤดูฝนที่ทำให้เกิดสิว และรวดเร็วยิ่งขึ้น


เจลแต้มสิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com