ผิวสุขภาพดี การบำรุงผิว ทำได้ขณะช่วงเวลานอนหลับ
ผิวสวยสุขภาพดี ทำได้ไม่ยาก สิ่งที่ต้องทำเป็นประจำขาดไม่ได้เลยก็คือ ผิวสุขภาพดี การบำรุงผิว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการบำรุงผิว คือช่วงไหน??? คำตอบก็คือ ช่วงเวลากลางคืน เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ที่สุด เหตุผลก็เป็นเพราะว่าในตอนกลางคืนที่นอนหลับแล้วท่องโลกความฝัน นอกจากจะได้พักผ่อนชาร์จพลัง ให้พร้อมลุยเช้าวันใหม่อย่างสดชื่นแจ่มใส ร่างกายก็จะปรับมาอยู่ในโหมดซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงเซลล์ผิวที่โดนทำร้ายด้วยเช่นกัน แบบนี้หากยิ่งขยันดูแลผิวก่อนนอน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มพลังการฟื้นฟูให้ผิวกลับมาสวยและแข็งแรงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอนหลับเต็มอิ่มทำให้ผิวสวย
ดูแลผิวขณะนอนหลับ ทุกคนควรทำให้ได้ การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะต่อให้คุณสาวๆ จะโบกผิวด้วยสกินแคร์ราคาแพงๆ ตัวดังๆ แต่ถ้านอนดึกเป็นประจำหรือชอบอดหลับอดนอนอยู่เสมอ พอร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะส่งผลเสียต่อผิวพรรณด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยมาเยือนก่อนวัย ผิวดูหมองคล้ำไม่สดใส หรือผิวอ่อนแอและโดนทำร้ายง่ายขึ้น แบบนี้จึงควร นอนหลับให้เต็มอิ่มครบ 7 – 9 ชั่วโมงทุกวัน และเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อเพิ่มเสริมให้ผิวได้มีเวลาในการซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองมากขึ้นในตอนกลางคืนด้วย
เช็ดเครื่องสำอาง + ล้างหน้าทุกครั้งก่อนนอน
ชีวิตประจำวันของหลายๆ คน ต้องต่อสู้กับศึกหนักจากหลายด้าน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องส่วนตัว พอกลับถึงบ้านก็อยากจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนหลับทันที เพราะทั้งเหนื่อยและเพลียหนักมาก แต่การนอนหลับไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ก็ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อผิวสักเท่าไหร่ เพราะผิวหน้าของเราในแต่ละวันต้องเจอกับทั้งเมคอัพ คราบเหงื่อ / ความมัน และมลภาวะภายนอกที่เราไปเผชิญอีกมากมาย หากนอนหลับไปพร้อมกับเมคอัพและสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้า ก็อาจทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและเกิดสิวอักเสบขึ้นได้ง่ายๆ ทางที่ดี ทุกคืนก่อนนอนแนะนำให้ใช้รีมูฟเวอร์เช็ดคราบเครื่องสำอางออกก่อน แล้วตามด้วยการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาดผิวให้ไร้สิ่งสกปรกตกค้าง
รีมูฟเวอร์หรือคลีนซิ่ง มีกี่แบบกันนะ
- Cleansing Water : แบบน้ำใช้คู่กับสำลี เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน
- Cleansing Oil : แบบน้ำมัน ใช้คู่กับสำลีหรือใช้มือ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง
- Milk Cleansing : เป็นตัวที่ผสมน้ำและน้ำมันเขาด้วยกัน สีจะคล้ายน้ำนม ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
- Cleansing Cream / Balm : เนื้อครีมหรือบาล์ม ใช้มือในการถูกวน เหมาะกับทุกสภาพผิว
- Dual Phase Cleansing : เป็นเนื้อน้ำกับน้ำมันแยกชั้นกัน เขย่าก่อนใช้ ช่วยล้างเครื่องสำอางหมดจดมากกว่าแบบน้ำ
- Lotion Cleansing : แบบโลชันเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ใช้มือในการนวดล้างเครื่องสำอาง
- Cleansing Pad / Cotton : แบบสำลีหรือแผ่นที่ชุบคลีนซิ่งมาแล้ว ใช้งานได้ทันที เหมาะกับเวลาเร่งรีบ
คลีนเซอร์ไม่สามารถล้างคราบสิ่งสกปกหรือเมคอัพได้หมดจด จึงจำเป็นต้องล้างด้วยรีมูฟเวอร์ก่อน แล้วจึงจะตามล้างตามด้วยคลีนเซอร์
- Foam Cleanser : เนื้อโฟมทั่วไป บางตัวอาจจะต้องใช้ที่ตีโฟมเพื่อให้ได้ฟองเยอะ ๆ จะทำความสะอาดได้ดีขึ้นอีกด้วย เหมาะกับทุกสภาพผิว
- Foam Bead Scrub : เนื้อโฟมที่มีเม็ดสครับ ไม่ค่อยเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและไม่ควรใช้บ่อย
- Gel Cleanser : เนื้อเจล จะเหมาะกับผิวมันและผิวผสม เพราะจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน คล้ายกับสบู่แต่มีค่าความด่างน้อยกว่า
- Mousse Cleanser : เนื้อมูส จะมีความเหลวกว่าแบบเจล หลาย ๆ แบรนด์ก็จะทำขวดแบบปั๊มฟองโฟมมาให้เลยด้วย ใช้งานสะดวกสุด ๆ เหมาะกับทุกสภาพผิว
ทามอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดคืน
ช่วงกลางคืนก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ผิวอาจแห้งมากขึ้นกว่าปกติ โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยเลย ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าที่อาจทำลายน้ำมันตามธรรมชาติที่เคลือบปกป้องให้หายไป การนอนหลับในห้องที่มีอากาศแห้ง รวมทั้งการไม่ได้ดื่มน้ำก็ตลอดช่วงเวลาที่นอนหลับ ก็อาจทำให้ผิวแห้งขาดน้ำได้ด้วย แล้วทริคที่จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวแบบยิงยาวขณะที่นอนหลับ การทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวก่อนนอนทุกคืน เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำ หรืออาจเลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและ บำรุงผิว ในช่วงกลางคืนโดยเฉพาะอย่าง Sleeping Mask มาเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังผิวสวยด้วยอีกแรงก็ได้
ทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ช่วงกลางคืน
สกินแคร์ที่วางขายตามท้องตลาดมีหลายประเภท แล้วยังมีวิธีใช้ที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่ต่างกัน รวมทั้งช่วงเวลาการใช้ที่ไม่เหมือนกันด้วย อย่าง ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ ก็เป็นสกินแคร์ที่เหมาะจะทาบำรุงผิวในช่วงเวลากลางคืนมากกว่ากลางวัน เพราะเรตินอยด์อาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น หากทาในช่วงเช้าหรือกลางวัน เวลาออกไปเจอแดดก็อาจเสี่ยงที่ผิวจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงเหมาะจะใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ เป็นตัวช่วยเพิ่มพลังผิวสวยในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเน้นช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยสิว / จุดด่างดำให้แลดูจางลง พร้อมปรับให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกันมากขึ้น
อย่าลืมบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปากด้วย
ใครหลายคนที่โฟกัสอยู่กับแค่การบำรุงผิวหน้าก่อนนอนแน่ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ??? แต่ถ้าอยากจะตื่นมาพร้อมกับผิวสวยสุขภาพดีในตอนเช้า จะบำรุงแค่ผิวหน้าอย่างเดียวไม่ได้เด็ดขาดเลย ควรต้องให้ความสำคัญกับ การบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก ด้วยเช่นกัน เพราะหากผิวหน้าสวยใส แต่ใต้ตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้า หรือริมฝีปากแห้งลอกจนเลือดออกซิบๆ ก็อาจโดนเหมารวมว่าเป็นคนผิวเสียได้เลย ดังนั้น ก่อนล้มตัวนอนก็ควรต้องทาครีมบำรุงผิว ทาอายครีมเติมความเปล่งปลั่งสดใสให้ผิวบริเวณใต้ตา รวมทั้งทาลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นและบำรุงให้ปากเนียนนุ่มขึ้น
ปรับเปลี่ยนท่านอนมานอนหงายจะดีต่อผิวมากกว่า
หลังจากที่ผ่านมาเราแชร์ทริคการเลือกใช้สกินแคร์ บำรุงผิว ขณะนอนหลับไปแล้ว คราวนี้ได้เวลาของทริคที่เกี่ยวข้องกับท่าทางการนอนบ้างแล้ว ปกติแล้วคนนอนหลับท่าไหนกันบ้าง? บางคนอาจชอบนอนคว่ำ บางคนอาจชอบนอนหงาย บางคนอาจชอบนอนตะแคงข้าง หรือบางคนอาจชอบนอนกอดหมอนข้างคู่ใจ แต่หากอยากจะดูแลผิวขณะที่นอนหลับในตอนกลางคืน แนะนำให้ ปรับเปลี่ยนมานอนในท่านอนหงายจะดีที่สุด เพราะการนอนคว่ำหรือตะแคงข้าง อาจทำให้ผิวหน้าไปเสียดสีกับหมอนจนเกิดการระคายเคือง หรือใบหน้ากดบนหมอนเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าได้ แบบนี้การนอนหงายจึงช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหน้าสัมผัสกับหมอนได้
นอนหมอนสูง ช่วยลดหน้าบวม / ใต้ตาบวมได้
ใครเคยเจอโมเมนต์ ตื่นเช้ามาแล้วหน้าบวมเป่งแบบสุดๆ โดยสาเหตุที่ทำให้หน้าบวมหลังตื่นนอนก็มีอยู่หลายอย่างเลย เช่น กินอาหารรสเค็มจัดปริมาณมาก / ร่างกายขาดน้ำจนทำให้เกิดอาการบวมเฉพาะจุด / ติดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ฯลฯ แล้วทริคง่ายๆ ที่จะช่วยลดปัญหาหน้าบวมหลังตื่นนอนก็คือ การนอนหนุนหมอนสูง ซึ่งการนอนหนุนหมองที่สูงขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้เลือดและของเหลวไหลเวียนไปยังส่วนอื่นๆ ไม่เกาะกลุ่มอยู่บนใบหน้าหรือกระจุกตัวอยู่บริเวณใต้ตาจนดูบวมเป่ง แต่ไม่ควรนอนหนุนหมอนสูงเกินไป เพราะเดี๋ยวจะตื่นมาพร้อมอาการคอเคล็ด
เห็นมั้ยล่ะ ว่าในขณะที่เรากำลังนอนหลับในช่วงเวลากลางคืน ร่างกายก็ไม่ได้หยุดทำงาน และยังคงทำหน้าที่ ซ่อมแซมผิวพรรณอยู่ตลอด แบบนี้หากอยากจะตื่นมาพร้อมกับผิวที่ดูเปล่งปลั่งสดใส และ แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องเริ่มตั้งแต่ การนอนหลับให้เต็มอิ่ม ล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอน ขยันทาครีมบำรุงผิวหน้า / รอบดวงตา / ริมฝีปากทุกคืน รวมทั้งปรับเปลี่ยนท่านอนให้เหมาะสม การปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้าย หากทำได้ครบ ตามที่แนะนำไปก็จะช่วยฟื้นบำรุงผิวให้สวยสตรอง และลดปัญหาผิวกวนใจต่างๆ ได้แล้ว
เซรั่มบำรุงผิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com