บำรุงหน้าดีแล้ว ทำไมยังเกิดปัญหาผิวตามมา

บำรุงหน้าดีแล้ว ทำไมยังเกิดปัญหาผิวตามมา

การล้างหน้า เป็นขั้นตอนพื้นฐาน ที่สำคัญในการดูแลผิวหน้า เพราะไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงสุขภาพ และความแข็งแรงของผิวหน้าอีกด้วย หากละเลยขั้นตอนนี้ไปอาจทำให้เกิดปัญหาผิวบนใบหน้าตามมาได้ ขั้นตอนก่อนการ บำรุงหน้าดีแล้ว ทำไมยังเกิดปัญหาผิวตามมา ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้ดี ไม่เช่นนั้น ปัญหาผิวก็ยังจะไม่หายไป การล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้ผิวสะอาดหมดจด มีชัยไปกว่าครีมแล้ว ทำความสะอาดผิวหน้าดี หน้าก็เตรียมพร้อมที่จะรับครีมบำรุงต่อไป

บำรุงหน้าดีแล้ว ทำไมยังเกิดปัญหาผิวตามมา

ผิวหน้าเป็นผิวหนังที่บอบบางกว่าส่วนอื่น การล้างด้วยวิธีที่ผิด หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม อาจทำร้ายผิวหน้าได้ในคราวเดียวกัน ในระยะยาวการล้างหน้า ด้วยวิธีที่ผิดอาจนำไปสู่ปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวบอบบาง แพ้ง่าย สิว ริ้วรอย หรือแม้แต่โรคผิวหนัง โดยบทความนี้ ได้รวบรวมขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกต้อง เพื่อลดและป้องกันปัญหาผิวมาฝากกัน

ล้างหน้า

เคล็ดลับการล้างอย่างถูกต้อง เพื่อผิวหน้าสุขภาพดี พื้นฐานของผิวหน้าสุขภาพดี อาจมาจากการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง และเหมาะสม

  • เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับผิว
    แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวของตนเอง

    • ผิวมัน
      • โดยทั่วไป คนผิวมันมักเลือกโฟมที่มีความแรง เพื่อช่วยล้างความมันบนใบหน้า แต่ความเป็นจริงแล้วการใช้โฟมล้างหน้าที่แรงจนเกินไป อาจทำให้หน้าแห้งตึง จนเสียสมดุลและกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้หน้ามันมากกว่าเดิม ดังนั้น คนผิวมัน ควรเลือกโฟมที่ทำความสะอาดผิว ได้ล้ำลึกแต่ไม่แรงจนเกินไป
    • ผิวแห้ง
      • คนผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผิวหน้าที่ทำความสะอาดได้หมดจด แต่ไม่ทิ้งความรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้า เพื่อป้องกันผิวแห้งมากจนผิวแตกหรือลอกได้ นอกจากนี้ อาจเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีส่วนผสมสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
    • ผิวผสม
      • คนผิวผสมจะมีลักษณะของผิวมัน และผิวแห้งผสมกัน โดยตำแหน่งที่ผิวแห้ง และผิวมัน ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน คนในกลุ่มนี้ อาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ ทั้งสำหรับคนผิวแห้งและผิวมัน
    • ผิวแพ้ง่าย
      • ผิวแพ้ง่ายเกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม ดังนั้น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนประกอบของสารก่อระคายเคือง อย่างแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี สารเคมี หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ โดยอาจจะเกิดผื่นแดง มีอาการคัน หรือระคายเคืองได้

นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีรูปแบบเป็นน้ำ โฟม เจล หรือสบู่เหลว เพราะสบู่ก้อนมักมีค่าความเป็นกรดด่างที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้า จึงอาจทำให้ผิวแห้งได้

  • ล้างเครื่องสำอางให้สะอาด
    • เครื่องสำอางมีส่วนประกอบของสารเคมีที่อาจรบกวนผิว ไม่ว่าจะเป็นสี น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ข้นเหนียวและมีคุณสมบัติกันน้ำเพื่อให้ติดทนนาน การล้างเครื่องสำอางด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะหากล้างออกไม่เกลี้ยงอาจก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและสิวตามมาได้ ดังนั้น หากแต่งหน้าเป็นประจำ อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนแล้วค่อยล้างหน้าตามขั้นตอนปกติ เพื่อป้องกันการอุดตันและระคายเคืองผิว
  • ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ได้คุณภาพ
    • ในปัจจุบันอุปกรณ์ล้างหน้านิยมนำมาใช้เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกซื้อและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ ทำจากวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อุปกรณ์เหล่านี้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ทั่วไปอย่างสำลีแผ่นที่ใช้เช็ดเครื่องสำอางก็ควรเลือกชนิดที่มีความละเอียด ผิวสัมผัสไม่หยาบ เพื่อป้องกันผิวหน้าระคายเคือง
  • อย่าใช้น้ำอุ่นจัดล้างหน้า
    • การใช้น้ำอุณหภูมิสูงล้างหน้าอาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายผิวหน้า หลายคนมักคิดว่าน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจัดจะช่วยให้รูขุมขนเปิดและลดการอุดตันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะชะล้างไขมันตามธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจนทำให้ผิวเสียสมดุล ก่อให้เกิดผิวแห้งลอก ผิวบาง หรือแสบร้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวแห้ง ดังนั้น ควรใช้น้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิพอเหมาะในการล้างหน้าเท่านั้น
  • ล้างหน้าอย่างถูกต้อง
    • หลายคนอาจเริ่มต้นการล้างหน้าด้วยการบีบโฟมใส่ฝ่ามือแล้วถูให้ทั่วมือจนเกิดฟอง จากนั้นนำไปทาให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่นั่นเป็นวิธีที่ผิด เพราะขั้นตอนที่ถูกต้อง คือ การชโลมหน้าด้วยน้ำเปล่าก่อน จากนั้นบีบโฟมหรือเจลล้างหน้าใส่ฝ่ามือและถูให้เนื้อผลิตภัณฑ์แตกตัวเข้ากับน้ำ จึงค่อย ๆ นวด ๆ ไปตามรูปหน้าและผิวหน้าอย่างเบามือราว 15-20 วินาที เพื่อให้น้ำและสารทำความสะอาดชะล้างไขมัน คราบสกปรก และคราบเครื่องสำอางที่หลงเหลือให้หลุดออกได้ง่าย จากนั้นค่อยล้างน้ำเปล่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย
  • อย่าปล่อยให้น้ำบนผิวหน้าแห้งไปเอง

    หลังการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรปล่อยให้ใบหน้าที่เปียกแห้งไปเอง เพราะหยดน้ำบนผิวอาจระเหยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับดึงน้ำในชั้นผิวออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ จึงควรใช้ผ้าเช็ดตัวที่มีความนิ่มหรือกระดาษเช็ดหน้าซับเบา ๆ ให้ทั่วหน้าหลังล้างหน้าแทน

  • ผลัดเซลล์ผิวทุกสัปดาห์

    การผลัดเซลล์ผิวเป็นการกำจัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ผิวใหม่เติบโตขึ้น โดยอาจใช้การสครับผิวหรือการใช้สารผลัดเซลล์ผิวเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก แต่ควรระมัดระวังไม่ขัดผิวแรงจนเกินไป เพราะเม็ดสครับอาจบาดผิวหน้าและทำให้เกิดแผลได้ ส่วนสารผลัดเซลล์ผิวควรเลือกประเภทที่มีความเข้มข้นพอเหมาะ เพราะความเข้มข้นที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวบาง ระคายเคือง และแพ้ง่าย ทั้งนี้ การผลัดเซลล์ผิวควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง แต่สำหรับผู้ที่ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการผลัดเซลล์อย่างปลอดภัย

  • ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป

    แม้ความมันบนใบหน้าอาจกวนใจหลาย ๆ คน โดยเฉพาะอากาศประเทศไทยที่ทำให้หน้ามันได้ง่าย คนบางส่วนจึงล้างหน้าวันละหลายรอบเพื่อหวังจะลดความมันบนใบหน้า แต่การล้างหน้าที่บ่อยเกินความจำเป็นอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้หน้ามันกว่าเดิม จึงควรเปลี่ยนจากการล้างหน้ามาเป็นการซับหน้าด้วยผ้าหรือกระดาษเช็ดหน้าแทน

  • ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า

    โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ประทินผิวชนิดหนึ่งที่ใช้ปรับสมดุลและกักเก็บความชุ่มชื้นหลังการล้างหน้า ซึ่งโทนเนอร์บางชนิดอาจมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวอีกขั้นเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้าง หรือบางประเภทอาจมีสาร บำรุงผิว และปลอบประโลมผิวได้ด้วย

สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหรือโรคผิวหนัง เช่น สิว โรคผิวหนังอักเสบ เป็นแผล ฯลฯ ควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีทำความสะอาดที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ลากยาวมาถึง 3 ปีแล้ว หนึ่งไอเทมที่ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต้องมีติดตัวนั่นก็คือแมสก์หรือหน้ากากอนามัย ที่ช่วยป้องกันเจ้าเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ร่างกายของเรา แต่ความปลอดภัยก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดเสมอ เพราะของแถมที่ได้มาจากการใส่หน้ากากอนามัยนั่นก็คือ สิว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการ วันนี้เราเลยขอนำเสนอวิธีดูแลผิวหน้าของสาวๆให้ห่างไกลจากสิวที่มีสาเหตุจากหน้ากากอนามัยกัน

  • เลือกประเภทของแมสก์ให้เหมาะสม

ในท้องตลาดตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าแมสก์มีหลากหลายแบบมากจริงๆ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถใส่แมสก์ชนิดเดียวกันได้ ดังนั้น เราอยากให้ลองเช็กกันดูก่อน ว่าแมสก์แบบไหนที่เหมาะกับเรา หากสาว ๆ ใส่แล้วรู้สึกคันหรือระคายเคือง ขอให้รีบหลีกเลี่ยงด่วนๆ เลย เช่น เเมสก์ผ้า แมสก์ที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ หากใส่แล้วมีผื่นคัน หรือสิวขึ้น รีบเลี่ยงด่วนเลย

 

 

  • เปลี่ยนแมสก์ทุกวัน

เราควรที่จะเปลี่ยนแมสก์ทุกวันนะเพื่อน ๆ ทั้งเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมต่างๆ และเพื่อป้องกันการระคายเคืองกับผิวหน้าด้วย เพราะในแต่ละวันต้องเจอทั้งฝุ่น ควัน ต่างๆ มากมาย หากใช้ซ้ำก็จะยิ่งเกิดการกมักหมมของสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งจะทำให้สิวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

  • ลดการแต่งหน้า

เราจะเห็นเทคนิคมากมาย เพื่อแต่งหน้าไม่ให้ติดแมสก์ แต่ไม่ว่าจะพยายามวิธีไหนหรือเทคนิคไหน ผิวหน้าของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางมาก หากแต่งหน้าแล้วสวมแมสก์ทับจะยิ่งเกิดสิวได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะเมื่อเครื่องสำอางเจอกับความอับชื้นจากการใส่แมส ก็ง่ายต่อการเกิดสิว

  • ทำความสะอาดผิวหน้า

ทั้งสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และความอับชื้น คือสาเหตุของการเกิดสิว ดังนั้นเมื่อหมดวันแล้ว เพื่อนๆ ควรรีบถอดแมสก์และทำความสะอาดอย่างเร่งด่วน เพื่อนำเอาสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไป ลดการสะสมแบคทีเรียบนใบหน้า และที่สำคัญห้ามขี้เกียจ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องกลับมาใช้เวลากับการล้างทำความสะอาดใบหน้ากัน

  • ถอดแมสก์ระหว่างวัน

เห็นข้อนี้ แล้วหลายคนอาจจะตกใจ แต่นี่คือเรื่องจริง อย่างที่บอกไปว่าการใส่แมสก์ในประเทศของเราที่ร้อนอบอ้าวภายใต้แมสก์หนีไม่พ้นความอับชื้นแน่นอน ดังนั้น เราควรที่จะถอดแมสก์ให้อากาศได้ถ่ายเทบ้าง แต่แต่แต่! ไม่ใช่จะถอดตรงไหนก็ได้ เลือกพื้นที่ที่คนน้อยๆ และมั่นใจว่าปลอดภัยจริงๆ จะได้ลดเสี่ยงการติดเชื้อโรคด้วย

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

เพราะสิวจากแมสก์ ก็ขึ้นได้ง่ายอยู่แล้ว ดังนั้น เราก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และอ่อนโยนจริงๆ อย่าให้ผิวหน้าถูกทำร้ายไปมากกว่านี้เลย เพื่อให้ได้รับการ บำรุงผิว อย่างเต็มที่ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่สลากเขียนว่า Hypoallergenic ที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ( Non-Comedogenic ) และในส่วนผสมยัง ปราศจากน้ำมัน ( Oil-Free ), ปราศจากสารเคมี ( Non-Chemical ), ปราศจากน้ำหอม (No Perfume – No Fragrance) และปราศจากสารกันบูด ( No Preservatives ) เป็นต้น

นอกจากเรื่องสิวที่เราเป็นห่วงแล้ว เรื่องสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นห่วงทุกคนไม่แพ้กัน ดังนั้นอย่าลืมใส่ใจทั้งสุขภาพกาย ใจ และผิวหน้าไปพร้อมๆ กัน

 

 

เพียงทำตามวิธีเหล่านี้ ก็อาจช่วยให้ล้างหน้าได้สะอาดและทำให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เพื่อผิวหน้าที่ดูสดใสสุขภาพดี ปัญหาเรื่องของผิวบาง โดยเฉพาะผิวหน้า ควรดูแลตนเองด้วยวิธีอื่น อย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ลดความเครียดเป็นประจำ เพราะร่างกายที่สมดุลเป็นพื้นฐานของผิวที่สุขภาพดี


โทนเนอร์ กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และ เลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com