ดูแลผิว กระจางใส ให้กลับมาปังสวยเป๊ะ

ดูแลผิว กระจางใส ให้กลับมาปังสวยเป๊ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้ใครที่ปัญหาผิว หมองคล้ำ ริ้วรอยบนในหน้า มา ดูแลผิว กระจางใส ที่สาวทุคนปรารถนาอยากมีกันทุกคน หลายคนต่างชอบความรู้สึกของผิวที่ดูเนียนและโกลว์กระจ่างใส คุณอาจกำลังเข้าใจผิวอยู่ อย่างไรก็ตามถ้าสังเกตุว่าผิวเริ่มมีความเงาและดูบางนั่นคือสัญญาณของผิวที่อ่อนแอขั้นสุดแล้ว

ดูแลผิว กระจางใส

วิธีการดูแลผิว ให้สวนแข็งแรงไม่แห้งกร้าน

สาวๆ หลายคนที่มีปัญหาผิวอ่อนแอ เป็นสิวและบอบบางแพ้ง่าย ล้วนอยากมีผิวสวยใสและแข็งแรง แต่ไม่รู้ว่าควรจะดูแลผิวอย่างไรดี วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 วิธีสุดปังที่คัดสรรมาแล้ว ว่าช่วยให้ผิวคุณกลับมาแข็งแรงและดูสวยอย่างมีออร่าได้จริง เพียงทำตาม 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้เท่านั้น

1. ดูแลจากภายใน

ผิวที่ดีต้องเริ่มต้นที่ภายใน ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ โดยอาหารที่เลือกทานควรเน้นผักสดและผลไม้ที่ให้ความฉ่ำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นส้ม แอปเปิ้ล สับปะรด แตงโม หรือผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย

2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

สาวๆ สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้เกิดขึ้นได้ง่าย เพียงดื่มน้ำให้มากและเพียงพอไม่ต่ำกว่า 8 แก้วในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ ไม่แห้งผาก หรือลดการมีริ้วรอยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำหลังล้างหน้า เพื่อให้เกิดการซึมซับได้ดีที่สุด และบำรุงลึกถึงผิวชั้นในอีกด้วย

3. ล้างหน้าให้สะอาด

เป็นเรื่องที่ง่ายและสำคัญมากที่สุดในการดูแลผิวหน้า สาวๆ ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น ด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว ทำความสะอาดได้ล้ำลึก และไม่ขัดถูแรงๆ ขณะล้างหน้า เพราะจะเกิดการระคายเคืองต่อผิวจนเป็นเหตุให้เกิดสิวได้

4. บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และควรใช้ต่อเนื่องเป็นประจำสม่ำเสมอในทุกวัน ทั้งนี้หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของธรรมชาติเป็นหลักจะดีมาก เพราะอ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิวนั่นเอง

5. ทาครีมกันแดดเสมอ

หลายๆ คนมักเข้าใจผิด คิดว่าควรทาครีมกันแดดเฉพาะในเวลาที่เราต้องเผชิญกับแสงแดด ในขณะที่ความเป็นจริงคือ เราควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้ไม่เจอกับแสงแดด ซึ่งการทาครีมกันแดดก็จะช่วยปกป้องผิว และยังฟื้นบำรุงผิวให้สวยมีออร่าได้อีกด้วย

ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื่นและแห้งลอกได้ง่าย หากเริ่มสังเกตุเห็นว่าเริ่มดูแห้งกร้านหรือลอกเป็นขุย นั่นอาจเป็นไปได้ว่าสาวๆ อาจใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินความจำเป็นและไม่ได้ใส่ใจกับการเติมความชุ่มชื่นด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟู ผิว ดึงเอาความชุ่มชื่นที่อยู่ในผิวและควรปรับการใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิว

พฤติกรรมเสี่ยงทำผิวพัง ที่เราชอบทำโดยไม่รู้ตัว

  1. หน้ามันก็เลยไม่ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์

ก็หน้ามันแล้ว จะต้องเพิ่มความชุ่มชื้นอะไรหนักหนา แค่นี้ก็ยังฉ่ำไม่พอเหรอ!? ขอบอกว่า “ไม่พอ” ค่ะ ใครที่เข้าใจว่า หน้ามันเยิ้มแล้ว จะไม่ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ยังไงก็ได้ คุณกำลังเข้าใจผิดค่ะ เพราะว่าความชุ่มชื้นและความมันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน แม้ว่าผิวเราจะมันมากขนาดไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าความชุ่มชื้นหรือน้ำใต้ผิวเราจะผลิตออกมาได้เท่าๆ กัน เราอาจเป็นคนหน้ามัน แต่ขาดน้ำก็ได้ และพอผิวเราขาดน้ำปุ๊ป สิ่งที่ตามมาก็คือ หน้ามันเยิ้มหนักกว่าเดิม และอาการเดี๋ยวก็หน้าแห้ง เดี๋ยวก็หน้ามันค่ะ และถ้าผิวเราขาดความชุ่มชื้นก็ง่ายต่อการเกิดริ้วรอยด้วย ฉะนั้น ต่อให้เราเป็นคนผิวมัน ก็อย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์กันนะคะ

  1. ทาครีมไม่ถูกลำดับ

ซื้อสกินแคร์มาอย่างดีเลย มีหมดแทบทุกอย่าง แต่ดันทาผิดลำดับ ก็ไม่เวิร์กนะคะ เพราะว่าเนื้อครีมแต่ละตัวมีความหนาต่างกันค่ะ ถ้าเราทาสกินแคร์ที่มีเนื้อหนาๆ อย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ลงไปก่อน ก็จะทำให้สกินแคร์เนื้อบางเบาซึมเข้าผิวหนังได้ยาก เพื่อให้สกินแคร์แต่ละตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และซึมเข้าผิวได้ดี ก็ควรทาให้ถูกลำดับนะคะ เทคนิคง่ายๆ ก็คือ ให้เลือกทาสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบาก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อยไล่ไปหาครีมเนื้อหนาค่ะ

  1. สครับผิวบ่อยและรุนแรงเกินไป

แม้การสครับผิวจะเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ผิวเราขาวกระจ่างใสขึ้น แต่การทำบ่อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะว่า Skin Barrier ของเราจะถูกทำลาย ทำให้สิ่งสกปรก และแบคทีเรียจู่โจมเข้าสู่ผิวเราได้ง่าย แนะนำว่าควรสครับอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอค่ะ

  1. ไม่ทาครีมกันแดดทุกวัน

เข้าใจค่ะว่า ทาครีมกันแดดแล้วมันจะทำให้ผิวเหนอะหนะไปหมด แต่ไม่ว่าจะเหนียวแค่ไหนก็ต้องทานะคะ เพราะการไม่ทาครีมกันแดดเลยจะทำให้ผิวเราเจอรังสี UV จากแดดเข้าไปเต็มๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ผิวเราคล้ำขึ้น แต่มันไม่ได้หมดแค่นี้นะคะ ผิวเรายังแก่ขึ้น มีริ้วรอยได้ง่าย และถ้าโดนแดดไปนานๆ หลายปีก็อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ และแดดเมืองไทยก็ยิ่งแรงๆ ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยจริงๆ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และ PA ค่ะ เพื่อปกป้องผิวเราได้ทั้งจากแสง UVA และ UVB

  1. ใช้แปรงแต่งหน้าที่ไม่เคยล้างทำความสะอาด

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือแปรงแต่งหน้าของเราค่ะ ต่อให้บำรุงผิวดีแค่ไหน แต่ถ้าทุกวันเราแต่งหน้าด้วยแปรงที่ไม่เคยล้างเลย ผิวเราเจอสิ่งสกปรกจู่โจมแบบเต็มๆ แน่นอนค่ะ เพราะแปรงแต่งหน้าคือแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดี ทั้งสารเคมีจากเครื่องสำอาง เหงื่อจากผิวเรา และฝุ่นละอองอีก ถ้าสิวจะขึ้น หรือจะมีผื่นคันตามหน้า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยค่ะ เพื่อผิวสวยใส อย่าลืมล้างทำความสะอาดแปรงแต่งหน้ากันบ้างนะคะ

  1. อดหลับอดนอนบ่อยๆ

ข้อนี้ไม่ได้เกี่ยวกับครีม ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องสำอางก็จริง แต่ “การนอน” เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผิวเราอยู่เช่นกันค่ะ ก็เพราะว่าช่วงที่เรานอนหลับ เป็นช่วงเวลาที่ผิวกำลังฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ถ้านอนไม่พอ ก็เหมือนไปรบกวนระบบการฟื้นฟูของผิว ทำให้ผิวไม่กระจ่างใสได้เต็มที่ เลยทำให้ตื่นมาเราหนาหมองๆ บวมๆ และมีรอยคล้ำใต้ตาได้ แต่ถ้าเรานอนอย่างเพียงพออย่างเป็นประจำก็จะให้ผลตรงกันข้ามก็คือ ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง รอยคล้ำใต้ตาลดลง แถมยังช่วยให้สมองปลอดโปร่งด้วยนะคะ

  1. กินอาหารทำร้ายผิว

อาหารที่เรากินเข้าไปก็ส่งผลต่อผิวเราเช่นกันค่ะ ถ้ากินแต่อาหารดีๆ มีประโยชน์ กินอาหารที่มีวิตามินเยอะๆ ผิวก็จะสวย แข็งแรงขึ้นได้ แต่ถ้ากินอาหารที่ทำร้ายผิว อย่างแอลกอฮอล์ น้ำตาล อาหารแปรรูป ก็จะทำให้ผิวเราไม่สวยอย่างที่หวังไว้ค่ะ

  1. ล้างหน้าไม่ถูกต้อง

ผิวจะสวยหรือผิวจะเสียก็ขึ้นอยู่กับเรื่องใกล้ตัวอย่างการล้างหน้าเช่นกันนะคะ ไม่ใช่แค่ว่าล้างพอให้เสร็จ แต่เราต้องล้างอย่างถูกวิธี และเหมาะสม ไม่ล้างบ่อยไป หรือล้างไม่สะอาด บางทีที่หน้าเรามีปัญหาผิวไม่จบสิ้นสักทีก็อาจมีสาเหตุมาจากการล้างหน้าเนี่ยแหละ เพราะว่าการล้างหน้าไม่ถูกต้องและไม่สะอาดเพียงพอก็จะทำให้ผิวถูกทำร้าย ระคายเคืองได้ง่าย และเป็นสิวค่ะ

  1. ไม่รู้จักครีมที่ตัวเองใช้อย่างดีพอ

แน่ใจหรือยังว่า ทุกวันนี้เรารู้จักครีมที่ตัวเองใช้ดีพอแล้ว? การที่จะใช้ครีมได้ถูกกับผิว และตอบโจทย์ผิวเราได้ดี เราจำเป็นต้องรู้ลึกถึงส่วนผสมของสกินแคร์ค่ะว่า ตัวนี้ประกอบด้วยส่วนผสมอะไร ส่วนผสมนี้ช่วยผิวในเรื่องไหน ไม่ใช่แค่ว่าฟังตามๆ กันมา ว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี เพราะผิวของแต่ละคนมีสภาพที่แตกต่างกัน บางทีครีมตัวนี้คนอื่นใช้แล้วไม่ดี แต่มันอาจจะดีสำหรับเราก็ได้ เราเลยจำเป็นที่ต้องรู้จักสกินแคร์ที่เราใช้ให้มากเข้าไว้ค่ะ อีกอย่างเพื่อป้องกันอาการหน้าแพ้ หน้าพัง ถ้าเรารู้จักส่วนผสมในสกินแคร์เอาไว้ ก็จะเลี่ยงปัญหานี้ได้ดีค่ะ

 

การบำรุงผิวทุกวันเป็นสิ่งสำคัญที่คุณทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากมีผิวขาวเร่งด่วน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแล ผิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยดำต่างๆ และยังผสานวิตามินซีจากธรรมชาติ ช่วยบูสท์ผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ แบบไม่ทำร้ายผิวอีกด้วย เป็นตัวช่วยผิวขาวเร่งด่วนที่สาวๆ แนะนำ เซรั่มบำรุงผิว กันดะ ฮอช พลาเซนต้า ซุปเปอร์ เซรั่ม รกม้า ผิวขาว กระจ่างใส ลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูจางลง กระชับรูขุมขน ไม่อุดตันผิว ลดรอยแผลเป็น ปลอดภัย 100% ไม่มีพาราเบน

นอกจากนี้คุณผู้หญิงทกุคนถ้าอยากมีผิวที่ชุ่มชืื้น ไม่แห้งกร้าน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ในผิวประกอบด้วยน้ำกว่า 70% การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้น แต่ข้อสำคัญของการดื่มน้ำนั้น คือ น้ำที่คุณดื่มนั้นควรเป็นน้ำน้ำเปล่า และควรดื่นน้ำอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ

พักเบรคจากการแต่งหน้าให้ผิวหน้าได้พักฟื้น สร้างผิวให้ปัง รับวาเลนไทน์ ฟื้นฟูผิวด้วยสกินแคร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นอย่างเช่นเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์ ดูแลผิวด้วยสกินแคร์เป็นอย่างดีจพช่วยลดการเกิดสิวบนในหน้าและใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อป้องกันผิวจากการโดนรังสียูวีทำร้าย ป้องกันสิ่งแปลกปลอมและอันตรายได้ เพื่อผิวมีความแข็งแรง มีความยืดหยุ่นและสามารถป้องกันการสูญเสียน้ำ


กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com