ควบคุมสิว ให้อยู่หมัด รู้จุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน

ควบคุมสิว ให้อยู่หมัด รู้จุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน

ยาแต้มสิว ตัวช่วยในการควบคุมและรักษาสิว ไม่ว่าจะบนใบหน้าหรือร่างกายส่วนอื่น การทายาแต้มสิวเป็นวิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ และเป็นส่วนสำคัญของการรักษาสิว แต่เนื่องจากยาแต้มสิวประกอบไปด้วยตัวยาที่มีความเข้มข้นต่างกัน ควบคุมสิว ให้อยู่หมัด การใช้ยาแต้มสิวที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

จุดประสงค์หลัก ของยาแต้มสิว แบ่งได้เป็นการรักษาและควบคุมสิว อีกจุดประสงค์หนึ่งคือ การลดรอยแดง รอยดำและแผลเป็นที่เกิดจากสิว โดยตัวยา ในยาแต้มสิวแต่ละชนิดก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน สามารถแบ่งออกได้หลายชนิดและหลายรูปแบบ คนที่ประสบกับปัญหาสิวจึงควรเลือกใช้ยาแต้มสิวแต่ละชนิดให้เหมาะสม ดังนั้น เพื่อจัดการสิวให้อยู่หมัดและใช้ยาแต้มสิวให้ปลอดภัย ใครที่กำลังเป็นสิวอยู่  อาจช่วยให้คุณเลือกใช้ยาแต้มสิวได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย และระมัดระวังมากขึ้น

ตัวยาแต้มสิวยอดฮิตกับข้อมูลที่ควรรู้ก่อนใช้

ยาแต้มสิว ยอดฮิตกับข้อมูลที่คนเป็นสิวควรรู้
ผลิตภัณฑ์ยาแต้มสิวที่พบได้ในท้องตลาด และได้รับความนิยมมักประกอบด้วยตัวยาเหล่านี้

  • ซาลิไซลิกแอซิด (Salicylic Acid)
    ซาลิไซลิกแอซิด หรือกรดซาลิไซลิก เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก โดยจะเข้าไปทำให้โปรตีน บนผิวหนัง ที่เรียกว่าเคราติน (Keratin) อ่อนตัวลงและผลัดออกได้ง่ายขึ้น ด้วยฤทธิ์เป็นกรด ซาลิไซลิกแอซิด ยังช่วยละลายหัวสิว ที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ทั้งสิวหัวขาว และสิวหัวดำ ที่อยู่ภายในรูขุมขนด้วย สำหรับซาลิไซลิกแอซิดความเข้มข้นสูง อาจใช้เพื่อลดรอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วย ความเข้มข้นของซาลิไซลิกแอซิด ในยาแต้มสิว แบ่งออกได้หลายระดับ ตามรูปแบบผลิตภัณฑ์ ส่วนมากความเข้มข้นของซาลิไซลิกแอซิดในยาแต้มสิว จะอยู่ระหว่าง 0.5–6% ซึ่งรูปแบบและความเข้มข้น ก็ส่งผลให้แต่ละผลิตภัณฑ์ มีวิธีใช้และความถี่ในการใช้ต่อวันต่างกัน ภายหลังการทายาแต้มสิว ที่มีซาลิไซลิกแอซิดอาจทำให้บางคน พบกับผลข้างเคียง อย่างรู้สึกคันยิบ ๆ บริเวณที่ทา และผิวแห้งลอกได้ โดยเฉพาะในคนที่เพิ่งเริ่มใช้
  • เรตินอยด์ (Retinoids)
    เรตินอยด์ เป็นสารชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินเอ เรตินอยด์สำหรั รักษาสิว สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด เช่น เรตินอล (Retinol) และเตรทติโนอิน (Tretinoin) ซึ่งสารในกลุ่มเรตินอยด์อาจมีคุณสมบัติ ยิบย่อยที่แตกต่างกัน แต่สรรพคุณ ในการ รักษาสิวจะคล้ายคลึงกัน

    • ละลายหัวสิว ที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน
    • ลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งอาจช่วยควบคุมการเกิดสิว
    • กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้สิวแห้งและยุบลง รวมทั้งอาจช่วยลดรอยสิวด้วย
    • กระตุ้นการสร้างโปรตีนในผิว อย่างคอลลาเจน จึงช่วยให้รอยแผลจากสิวดูตื้นขึ้น
    • ต้านการอักเสบที่เกิดจากสิว

การใช้ยาแต้มสิว กลุ่มเรตินอยด์ อาจทำให้ผิวแห้ง แดง ลอก คัน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และอาจมีอาการแสบผิว หรือผิวหนังอุ่นขึ้นหลังทา แต่อาการมักดีขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางคน ก็อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้นได้ จึงควรสังเกตผิวของตนเองอยู่เสมอระหว่างใช้เรตินอยด์ นอกจากนี้ เรตินอยด์ อาจทำให้ผิวบาง และไวต่อการกระตุ้น ระหว่างและหลังการใช้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด สบู่หรือโฟมล้างที่มีฤทธิ์แรง และสารเคมี

  • เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
    เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เป็นตัวยาแต้มสิว ที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่ง เพราะนอกจากสรรพคุณ บรรเทาอาการสิว ในระดับที่ไม่รุนแรงจนถึงรุนแรงปานกลาง อย่างสิวหัวขาว และสิวหัวดำแล้ว เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ยังมีฤทธิ์เป็นสารฆ่าเชื้อ ซึ่งช่วยยับยั้ง การเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหนึ่งของสิวอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ยาแต้มสิว ที่มีเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ มักมีระดับความเข้มข้นอยู่ที่ 5% มักพบในรูปแบบครีมหรือเจลสำหรับทาก่อนล้างหน้า โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทาบาง ๆ บริเวณหัวสิวหลังล้างหน้า 20 นาที วันละ 1 ครั้ง โดยระยะเวลาที่ทิ้งไว้ และความถี่ในการใช้ อาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพผิว ก่อนการใช้จึงควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกร ก่อนและหลัง ใช้ยาแต้มสิวเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง และไม่ใช้มือที่เปื้อนยาแต้มสิวไปจับเสื้อผ้าและผม เพราะฤทธิ์ของยาอาจทำให้สีผมและสีของผ้าเปลี่ยนไปได้
  • ผลข้างเคียง

จากการใช้ยาแต้มสิว ที่มีเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ผู้ใช้อาจพบกับอาการผิวแห้งตึง ผิวแดงลอก แสบ คัน และผิวไวต่อแดด จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีสารเคมีที่อาจทำร้ายผิว และหลีกเลี่ยงแสงแดดอยู่เสมอ

  • คลินดามัยซิน (Clindamycin)
    คลินดามัยซิน ยาแต้มสิว ที่ใช้ รักษาสิว ชนิดไม่รุนแรง สาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย คุณสมบัติเป็นสารฆ่าเชื้อ ช่วยยังยั้งและลดเชื้อสิวบนผิวหนัง โดยแพทย์อาจสั่งจ่ายยาแต้มสิวคลินดามัยซินให้ใช้เพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับยาแต้มสิวตัวอื่น อย่างเรตินอยด์ และเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ โดยให้ใช้ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและป้องกันการกลับมาเป็นสิวซ้ำ

    • ส่วนผลข้างเคียง

คลินดามัยซินจะคล้ายกับยาแต้มสิวตัวอื่น ๆ เช่น ผิวแห้ง แสบ ลอก แดง คัน หน้ามันกว่าปกติในบางราย

ยาแต้มสิวเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของยาแต้มสิวที่ได้รับความนิยมเท่านั้น ยังมียาแต้มสิวอีกหลายตัวที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ละตัวอาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในแต่ละคนและตามชนิดของสิวที่เป็น นอกจากยาแต้มสิว ในรูปแบบของยาแล้ว อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องสิว เช่น สารสกัดจากพืช และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อต้านอักเสบ สารผลัดเซลล์ผิวอย่างเอเอชเอ (AHA) ที่ช่วยให้รอยสิวจางลงและลดรอยแผลเป็น เป็นต้น

เรื่องที่ควรรู้และวิธีใช้

ยาแต้มสิวแต่ละชนิดมีวิธีใช้ สรรพคุณ และความเสี่ยงที่กัน วิธีต่อไปนี้ อาจช่วยให้ใช้ยาแต้มสิวอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรก่อนซื้อหรือใช้ยาแต้มสิวเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสิวรุนแรง เป็นโรคผิวหนัง มีโรคประจำตัว อยู่ระหว่างการใช้ยา ตั้งครรภ์หรือให้นมทารก รวมทั้งควรแจ้งชนิดของโรคและยาที่ใช้ให้แพทย์และเภสัชกรทราบด้วย
  • ใช้ยาแต้มสิว ตามคำแนะนำของแพทย์ และเภสัชกรเสมอ หากสงสัยเกี่ยวกับการใช้ การปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
  • อ่านฉลากยาแต้มสิวก่อนเสมอ เพราะในท้องตลาดมีทั้งยาแต้มสิว และผลิตภัณฑ์รักษาสิวแบบที่ไม่ใช่ยา ซึ่งหลายคนอาจสับสนและใช้ผิดได้
  • ยาแต้มสิวมีรูปแบบหลากหลาย ทั้งครีม เจล และโฟมล้างหน้า บางชนิดต้องล้างออก ตามเวลาที่กำหนด บางชนิด สามารถทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง แม้จะเป็นตัวยาเดียวกัน
  • ความเข้มข้นของยาแต้มสิว มีหลายระดับและมีวิธีการใช้ที่ต่างกัน หากไม่แน่ใจถึงวิธีใช้ ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนเสมอ
  • ยาแต้มสิวที่เป็นสารฆ่าเชื้อ อย่างเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์และคลินดามัยซิน ควรใช้ตามเวลาที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัดแม้อาการดีขึ้นหรือหายแล้วก็ตาม เพราะการหยุดใช้อาจทำให้กลับมาเป็นสิวซ้ำ และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
  • ยาแต้มสิวหลายชนิดสามารถซื้อได้เอง แต่เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ หรืออย่างน้อยก็ควรปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยา
  • ก่อนและหลังใช้ยาแต้มสิว ควรล้างมือให้สะอาดเสมอ
  • ผลข้างเคียงทั่วไป จากการใช้ยาแต้มสิวส่วนใหญ่จะคล้ายกัน เช่น ผิวแห้ง แดง ลอก แสบ คัน และไวต่อแสง ซึ่งควรดูแลผิวอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน ทาครีมกันแดด และระมัดระวังการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารก่อระคายเคือง อย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ สี และสารกันเสีย หากอาการรุนแรงขึ้น ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์

ผลข้างเคียงรุนแรง และอาการแพ้ยาแต้มสิวมักพบได้น้อย หน้าแห้ง ผิวลอกเป็นขุย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ หากพบอาการผื่นแดง เป็นแผลพุพอง อาการบวมตามผิวหนัง ริมฝีปาก คอ หายใจลำบาก เสียงแหบหวัด หรือเวียนหัว ควรไปโรงพยาบาลทันที ผลลัพธ์จากยาแต้มสิว และการรักษาสิว ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเห็นผล ระหว่างนั้นไม่ควรทายาเกินกว่าที่แพทย์แนะนำ ไม่หยุดยาเอง และไม่แกะ เกาสิว หากรู้สึกใช้ไปสักพักแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปปรึกษาแพทย์อีกครั้ง


เจลแต้มสิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com