สิวฮอร์โมน ปะทุทุกเดือน ทำยังไงดี พร้อมบอกวิธีดูแลรักษา
ปัญหาสิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนบุกหน้าช่วงก่อนมีประจำเดือน ถือเป็นปัญหาที่สาว ๆ อย่างเราต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะช่วงก่อนมีประจำเดือนฮอร์โมนของเราจะแปรปรวนสุด ๆ สิวฮอร์โมน ปะทุทุกเดือน ทำให้สิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวผดต่างพากันขึ้นแบบมิได้นัดหมาย บอกเลยว่าหนักใจสุด ๆ วันนี้ เลยมาบอกเคล็ดลับวิธีป้องกัน และดูแลตัวเองจากสิวประจำเดือน พร้อมบอกวิธีรักษาสิวประจำเดือนแบบตรงจุด รับรองว่าสิวยุบไว

สิวฮอร์โมน
• การผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะเพิ่มขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่นทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
• ซึ่งนำไปสู่ความไม่สมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นการเพิ่มการผลิตซีบัมในผิว เกิดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้แบคทีเรียเพิ่มขึ้น และแน่นอนสิวก็จะตามมา
• ในทำนองเดียวกันผู้หญิงต้องเผชิญกับระดับฮอร์โมนที่ผันผวน:
○ ช่วงมีประจำเดือน
○ หลังจากหยุดยาคุมกำเนิด
○ ระหว่างตั้งครรภ์
○ ในช่วงวัยก่อนหมดประจำเดือนและวัยหมดประจำเดือน
ดูแลแก้ไขปัญหาสิวฮอร์โมนด้วยการดูแลรักษาอย่างตรงจุด หากคุณเป็นผู้หญิง ตัวเลือกหนึ่งในการดูแลปัญหา
รักษาสิว ฮอร์โมนคือการรับประทานยาคุมกำเนิดซึ่งจะปรับสมดุลของฮอร์โมนที่ช่วยให้สภาพผิวดีขึ้น
📢เกิดจาก
สิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนนั้น เกิดจากการที่ฮอร์โมนในร่างกายของเรา เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยในช่วงก่อนมีประจำเดือน 1 สัปดาห์ ฮอร์โมน Estrogen ซึ่งฮอรโมนเพศหญิงที่ทำให้ผิวสวยลดลง ฮอร์โมน Progesterone (ฮอร์โมนเพศหญิงที่ควบคุมการมีประจำเดือน และทำให้รูขุมขนบวม) และ Testosterone (ฮอร์โมนเพศชาย) จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ จนทำให้รูขุมขนเกิดการบวม อีกทั้งยังกระตุ้นให้ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ประจวบกับการมีเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หลุดลอกลงไปในรูขุมขน ผสมกับน้ำมันที่ต่อมไขมันผลิตออกมา ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันขึ้นในที่สุด
นอกจากนี้ที่ผิวของเราจะมีแบคทีเรียเจ้าถิ่นอย่าง P.Acne (แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว) อาศัยอยู่ เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ก็จะยิ่งทำให้แบคทีเรีย P.Acne เจริญเติบโต และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าเจ้าแบคทีเรีย P.Acne มันกินน้ำมันจากต่อมไขมันของเราเป็นอาหาร แต่มันไม่ได้กินอย่างเดียวแล้วจบน่ะสิ พอมันกินมันก็ย่อยแล้วปล่อยกรดออกมาด้วย! แล้วกรดที่มันปล่อยออกมาก็ทำให้รูขุมขนของเราอักเสบ และเกิดสิวอักเสบขึ้นนั่นเอง
📢บทบาท
ในการกระตุ้นการเกิดสิวน้ำมันบนผิวของคุณ เรียกว่า ซีบัม การผลิตซีบัมถูกควบคุมโดยฮอร์โมนที่เรียกว่าแอนโดรเจน อย่างเช่น เทสโทสเตอโรน และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีอัตราส่วนของฮอร์โมนเหล่านี้ในร่างกายสูงกว่าฮอร์โมนอื่นๆ อย่างเช่น เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ผิวของคุณก็จะผลิตซีบัมออกมามากขึ้น
รูขุมขนถูกอุดตันด้วยซีบัมส่วนเกินและเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการเจริญเติบโตและเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวชนิด P. acne ซึ่งกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในผิวหนังส่งผลให้เกิดการอักเสบและรอยแดง
📢การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
📍สิวในช่วงวัยรุ่น
สิวมักเกิดในช่วงวัยรุ่น ในช่วงวัยแรกรุ่นไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะสูงขึ้น ในผู้ชาย ฮอร์โมนจะส่งผลต่อการพัฒนาลักษณะทางร่างกายภายนอกอย่าง ขนตามร่างกาย หนวดเคราบนใบหน้า กล้ามเนื้อ และมวลกระดูก ผู้หญิงมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ต่ำกว่า ซึ่งจะกระตุ้นการเกิดขนบริเวณอวัยวะเพศและขนใต้รักแร้ อีกทั้งยังเพิ่มกล้ามเนื้อและมวลกระดูกด้วย นอกจากนั้น ฮอร์โมนเทสโทสโรนยังกระตุ้นการผลิตซีบัมในรูขุมขน
📢ทำไมถึงมีสิวขึ้นก่อนการมีประจำเดือน?
หนึ่งอาทิตย์ก่อนการมีประจำเดือนผิวของคุณจะผลิตซีบัมมากขึ้น สิ่งนี้เกิดขึ้นจากความสมดุลของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน
- ในช่วงครึ่งแรกของการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมากขึ้นกว่าฮอร์โมนอื่น
- ในช่วงกลางๆ ของการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเริ่มสูงขึ้น
- ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนค่อนข้างคงที่ตลอดการมีประจำเดือน ดังนั้นเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนของคุณลดลง ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนก็จะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นโปรดจำไว้ว่าฮอร์โมนที่ควบคุมการผลิตของซีบัมคือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- ระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นทำให้ผิวเกิดอาการบวมและนั่นทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ทั้งสิ่งนี้และการผลิตของซีบัมที่มากขึ้นขณะที่ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงอาจทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน
- สุดท้าย ในหนึ่งสัปดาห์ก่อนการมีประจำเดือน ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง ทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าไปในร่างกายได้ ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเกิดสิวประจำเดือน

📢การตั้งครรภ์สามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้
การตั้งครรภ์เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนสูง ในช่วงไตรมาสแรกอาจเกิดสิวเยอะและรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามผิวจะค่อยๆ ปรับสภาพดีขึ้น สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของระดับเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในระหว่างตั้งครรภ์
วัยก่อนหมดประจำเดือนคืออีกช่วงเวลาหนึ่งที่อาจทำให้เป็นสิว
ในช่วงวัยก่อนหมดประจำเดือนและวัยหมดประจำเดือนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคุณจะเริ่มลดลง นักวิจัยสังเกตว่าผู้หญิงที่ประสบปัญหาสิวในช่วงระหว่างวัยหมดประจำเดือนมักมีฮอร์โมนแอนโดรเจนในระดับปกติแต่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของปริมาณฮอร์โมนต่างๆ อาจกระตุ้นการผลิตซีบัมและก่อให้เกิดสิว
📢บริเวณที่มักขึ้น
สิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนมักจะขึ้นบริเวณที่มีฮอร์โมนเพศชายอย่าง Testosterone และ Androgen อยู่เยอะ เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเหล่านี้จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันบริเวณนั้น ๆ ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ซึ่งบริเวณที่มีฮอร์โมนเพศชายอยู่เยอะ
การดูแล
วิธีควบคุมการเกิดสิวที่ได้ผลโดยสรุปแล้ว สิวส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมน แม้ว่าคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยง ช่วงเวลาของชีวิตอย่างช่วงวัยแรกรุ่น ช่วงมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์และช่วงวัยหมดประจำเดือนได้ แต่คุณสามารถลดความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือใช้เทคนิคลดความเครียด เป็นต้น
การทำความสะอาด และดูแลผิวที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวได้ง่ายด้วย ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเป็นประจำ ประกอบกับการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เหมาะสม จะเข้ามามีบทบบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดสิว นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะจุด มากมายที่สามารถช่วยได้ แต่ถ้าสิวของคุณยังคงอยู่โดยเฉพาะก่อนช่วงมีประจำเดือน คงถึงเวลาต้องใช้การรักษาด้วยยาเพื่อคืนความสมดุลของฮอร์โมน
การรักษาด้วยยาที่มีผลต่อต้านแอนโดรเจนที่ผิวหนัง เรียกว่าการบำบัดด้วยฮอร์โมนต้านฤทธิ์แอนโดรเจน การบำบัดด้วยฮอร์โมนที่ได้ผลดีในการควบคุมสิวคงไม่มีวิธีใดดีไปกว่าการใช้ “ยาเม็ดคุมกำเนิด”ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อีกทั้งยังต่อต้านแอนโดรเจนในร่างกาย นอกจากคุณสมบัติในการคุมกำเนิดแล้วยังช่วยลดการผลิตซีบัมโดยการลดการอุดตันรูขุมขนและการเกิดสิว
ไม่ใช่ว่าทุกคน จะสามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดได้ หรือจริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าทุกคนจะอยากใช้ มีปัจจัยเสี่ยงที่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด อาจไม่เหมาะกับคุณ หากคุณเคยมี ประวัติเกี่ยวกับลิ่มเลือด ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเกินเกณฑ์หรือสูบบุหรี่ โชคดีที่มีวิธีการรักษาอื่นๆ อีกมากมาย และแพทย์ของคุณ สามารถให้คำแนะนำที่ดี เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรักษา แต่ถ้าคุณสามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดได้มันก็เป็นตัวเลือกที่ ควรพิจารณา เพราะไม่เพียงแต่คุมกำเนิดเท่านั้นแต่ยังควบคุมการเกิดสิวอีกด้วย
วิธีป้องกัน
- ล้างหน้าให้สะอาด : ขั้นตอนง่าย ๆ พื้นฐานที่หลาย ๆ คนทำไม่ได้ แต่ถ้าใครพิถีพิถันในขั้นตอนการล้างหน้าดูสักนิดก็จะสามารถป้องกันการเกิดสิวไปได้มากเลย
- ใช้กระดาษทิชชูเช็ดหน้าแทนการใช้ผ้าขนหนู : เนื่องจากกระดาษทิชชูเราใช้เช็ดครั้งเดียวก็ทิ้ง จะเช็ดอีกครั้งก็ต้องใช้แผ่นใหม่ เรียกได้ว่าสะอาดทุกครั้งที่ใช้ แต่กลับกันผ้าขนหนูเราไม่ได้เปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่ใช้อยู่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้มันเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียชั้นดี และยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิดสิวเข้าไปอีก
- เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อย ๆ : ปลอกหมอนเองก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียไม่แพ้ผ้าขนหนูเลยค่ะ เพราะเวลาเรานอนแบคทีเรียและความมันจากเส้นผมของเรา ไหนจะความมันและแบคเรียจากใบหน้าของเราก็สามารถไปติดที่ปลอกหมอนได้ ฉะนั้นการเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อย ๆ ก็สามารถลดโอกาสการเกิดสิวได้
- ดื่มน้ำมาก ๆ : การดื่มน้ำมาก ๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้ให้ร่างกายและระบบฮอร์โมนสมดุล แต่ยังช่วยให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาน้อยลงด้วย เพราะเมื่อผิวเรามีน้ำมาหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง ทำให้ลดโอกาสการเกิดสิวได้นั่นเอง
- กินผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูง : สาว ๆ เคยสังเกตไหมคะว่าคนที่ท้องผูกส่วนใหญ่จะมีปัญหาสิวร่วมด้วย ฉะนั้นการกินพวกผักและผลไม้ที่มีกากใยสูงจะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น โอกาสการเกิดสิวก็ลดลง
- พักผ่อนให้เพียงพอ : การพักผ่อนอย่างเพียงพอส่งผลดีต่อทุกระบบของร่างกาย รวมทั้งระบบฮอร์โมนของเราด้วย เมื่อระบบฮอร์โมนของเราทำงานได้อย่างปกติ โอกาสที่จะเกิดสิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนก็จะลดลงได้นั่นเอง
- เลี่ยงการสัมผัสใบหน้า : เพราะที่มือและเล็บของเราเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียชั้นดี ฉะนั้นการหลักเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าก็สามารถลดโอกาสการเกิดสิวได้มากทีเดียว
- พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุล : เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย คือสาเหตุหลักของการเกิดสิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมน ฉะนั้นการพบแพทย์เพื่อปรับสมดุฮอร์โมนถือเป็นวิธีการรักษาที่ตรงจุดที่สุด
- กรณีเป็นสิวอุดตัน : กรณีที่สิวอุดตันขึ้นไม่ว่าจะเป็นสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำ วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือการหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid มาใช้ค่ะ
- กรณีเป็นสิวอักเสบ : กรณีเป็นสิวอักเสบประเภทสิวหัวหนอง แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ส่วนในกรณีที่เป็นสิวอักเสบประเภทสิวหัวช้าง ที่ม
- ลักษณะเป็นไตแข็ง ๆ แนะนำให้ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide ควบคู่กับการกินยาจำพวก Isotretinoin

หลังจากนี้สิวประจำเดือนหรือสิวฮอร์โมนจะไม่เป็นปัญหากวนใจของสาว ๆ อีกต่อไป เพราะในบทความนี้เราบอกหมดทั้งวิธีป้องกัน
โทนเนอร์ คำถามคาใจ วิธีดูแลตัวเอง และวิธี รักษาสิว ประจำเดือนอย่างตรงจุด ที่สำคัญสาว ๆ ต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ระบบภายใน โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ฮอร์โมนสมดุลไม่แปรปรวน อีกทั้งต้องเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดสิวด้วย
เจลแต้มสิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com