วิธีลดสิวจากหน้ากากอนามัย คลายกังวล เผยหน้าใส

วิธีลดสิวจากหน้ากากอนามัย คลายกังวล เผยหน้าใส

โควิดน่าจะยังอยู่กับเราไปอีกนาน ถึงแม้จะเบื่อและอึดอัดยังไงเราก็ต้องใส่แมสก์อยู่เสมอทุกครั้งที่ต้องพบปะผู้คนหรือตอนออกจากบ้าน แต่การใส่แมสก์ทุกวัน นอกจากจะป้องกันโรคและมลพิษได้ ยังทำให้ใบหน้าภายใต้หน้ากากอนามัยมีสิวด้วย หลายคนประสบปัญหานี้กันใช่ไหมล่ะ แต่ ๆ ไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไปแล้ว! วิธีลดสิวจากหน้ากากอนามัย คลายกังวล เพราะวันนี้เรานำช่วยลดสิวจากการใส่หน้ากากอนามัย มาฝากให้นำวิธีต่าง ๆ ไปป้องกันผิวสวย ๆ กัน มีวิธีอะไรบ้าง
วิธีลดสิวจากหน้ากากอนามัย คลายกังวล เผยหน้าใส

เลือกเนื้อผ้าของหน้ากากอนามัย

การเลือกเนื้อผ้าของหน้ากากอนามัยหรือแมสก์เนี่ยมีความสำคัญมาก ๆ เลยละค่ะ ถ้าเราใช้แมสก์ที่มีเนื้อผ้าที่แข็งกระด้าง อาจทำให้หน้ากากอนามัยเสียดสีกับผิวมากเกินไป จนทำให้เกิด สิวได้ ดังนั้นเราจะต้องเลือกหน้ากากอนามัยที่มีความอ่อนนุ่ม ใส่แล้วไม่ระคายเคือง พอดีกับใบหน้า และที่สำคัญคือ ‘ต้องใส่หน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐาน’ นะคะ พยายามเลือกหน้ากากที่ปิดได้มิดชิด ไม่มีช่องหรือรูให้อากาศภายนอกเข้ามาในหน้ากากอนามัยได้ จะช่วยลดการเสียดสีกับผิวหน้า ลดเชื้อโรคที่จะเล็ดลอดเข้ามาภายในหน้ากากอีกด้วย

เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน

หลายคนอาจจะคิดว่าวันนี้เราออกไปข้างนอกไม่นานเอง พรุ่งนี้ใส่หน้ากากอนามัยซ้ำแผ่นเดิมก็ได้ ไม่ได้นะคะ! ซิสคิดแบบนั้นไม่ได้น้า แม้เราจะใส่หน้ากากอนามัยออกไปข้างนอกไม่นาน แต่ข้างนอกบ้านเราก็มีเชื้อโรคมากมาย แถมอากาศประเทศไทยก็ร้อนเอามาก ๆ ยิ่งใส่หน้ากากอนามัยยิ่งอบอ้าว ทำให้เหงื่อออกมากขึ้น แถมเราต้องมีพูดคุยตอนใส่แมสก์ด้วย แน่นอนว่าละอองน้ำลายมีกระเด็นติดในแมสก์บ้าง ยิ่งทำให้แมสก์สกปรก ดังนั้นซิสอย่าใส่ซ้ำเลยน้า ทั้งเหงื่อและน้ำลายมันเกาะติดหมักหมมอยู่บนผิวของแมสก์ นอกจากจะเสี่ยงโรคแล้วยังเสี่ยงสิวขึ้นอีกด้วยน้า ยอมเสียหน้ากากอนามัยหลายชิ้นดีกว่า ซิสอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่รับรองว่าปลอดภัยมากกว่า

ระหว่างวันถอดหน้ากากอนามัยออกบ้าง

การใส่แมสก์ทั้งวันนอกจากจะอึดอัดและหายใจไม่ออกแล้ว ยังทำให้หมักหมมอีกด้วย ดังนั้นเราขอแนะนำให้ซิสถอดแมสก์ออกบ้างในช่วงระหว่างวัน สัก 10-15 นาทีให้ผิวหน้าบริเวณที่โดนหน้ากากอนามัยได้พักและได้หายใจบ้าง ไม่อย่างนั้นอากาศ เหงื่อ และน้ำลายมันจะอบอยู่แต่ในแมสก์นานเกินไป ทำให้สิวเราขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม แต่ซิสจะต้องระมัดระวังนะคะ อย่าถอดในที่ ๆ คนเยอะ ๆ และพยายามเลี่ยงสถานที่เสี่ยงติดเชื้อ อย่างร้านอาหาร ถ้าหากคนเยอะแนะนำให้หาร้านที่คนน้อยหรือซื้อมาทานที่บ้าน ที่ทำงานจะดีกว่า และที่สำคัญถ้าซิสไม่ได้ทานที่บ้านอยากให้ซิสรีบทานด้วยนะคะ ถ้ายิ่งกินช้าจะทำให้เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นอีกด้วยนะคะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องค่อย ๆ เคี้ยวนะคะ อย่าเร่งตัวเองเกินไป เอาเท่าที่จะเร็วได้เป็นพอ

แต่งหน้าให้น้อยลงหรือบางลง

จะให้ออกจากบ้านทั้งที เชื่อเลยว่าซิสหลายคนจะต้องแต่งหน้าแน่นอน แม้จะเห็นแค่ช่วงตาก็ขอให้ได้แต่งเถอะ เพราะหน้าสดเราก็ไม่มั่นใจอะเนอะ แต่การแต่งหน้าที่หนาเกินไปทำให้เครื่องสำอางที่ปกติใช้แล้วก็เสี่ยงจะอุดตันได้ง่าย ยิ่งอุดตันได้ง่ายกว่าเดิมเพราะการใส่หน้ากากอนามัย อย่างที่บอกว่าผิวของเราเวลาใส่แมสก์ก็ไม่ค่อยได้หายใจแล้วเพราะมันอบอ้าวอยู่ด้านใน ยิ่งมาเจอกับเครื่องสำอางอีก ยิ่งทำให้ผิวอึดอัดไปกันใหญ่ ส่งผลให้สิวของซิสขึ้นได้ง่ายนั่นเองค่ะ ดังนั้นเราจะต้องลดปริมาณการใช้เครื่องสำอางลง เช่น ปกติใช้รองพื้น 2 ปั๊ม แนะนำให้ใช้ 1 ปั๊มแล้วค่อย ๆ เกลี่ยเอานะคะ จะทำให้ผิวไม่แน่นและอึดอัดเกินไป การใส่แมสก์เนี่ยเราจะไม่ค่อยได้เห็นผิวชัด ๆ เน้นแต่งตาจะดูปังและปั๊วะกว่า ใครสนใจหาไอเดียแต่งตาช่วงนี้แนะนำบทความนี้เลยค่า

ใช้ Cleansing เช็ดหน้าก่อนอาบน้ำ

ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่ก็ตาม เราขอแนะนำให้ซิสทุกคนมีเคลนซิ่งติดบ้านไว้น้า เพราะการทาครีมกันแดดก็ทำให้ผิวอุดตันได้ ถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาดมากพอ การใช้เคลนซิ่งช่วยล้าง 1 รอบก่อนจะใช้โฟมล้างหน้า จะทำให้ผิวหน้าเราสะอาดยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ ซึ่งเคลนซิ่งก็มีหลายแบบเลยทั้งแบบน้ำ แบบออยล์ แบบน้ำนม หรือจะเป็นแบบบาล์ม ใครสะดวกแบบไหนก็ใช้ได้ตามชอบเลยน้า แต่ถ้าไม่อยากให้ผิวถูกเสียดสีมากเกินไป แนะนำให้ใช้ตัวที่มีส่วนผสมของออยล์ แบบออยล์ หรือแบบบาล์ม พวกนี้สามารถใช้มือเราล้างได้เลย และตรงนี้จะช่วยลดการเสียดสีกับผิวหน้าของเรา ทำให้สิวลดน้อยลงนั่นเอง

ล้างหน้าด้วยโฟมที่อ่อนโยน

นอกจากจะใช้เคลนซิ่งล้างหน้าแล้ว เราก็จะต้องใช้คลีนเซอร์ ( Cleanser ) ล้างหน้าอีกรอบเพื่อทำให้ผิวของเราสะอาดมากยิ่งขึ้น คลีนเซอร์ในท้องตลาดส่วนมากจะเป็นแบบเจลและแบบโฟม ซึ่งก็มีหลากหลายแบรนด์มาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่อยากให้ซิสเลือกตัวที่อ่อนโยนกับผิวให้มากที่สุดน้า พยายามเลือกตัวที่ไม่มีสารซัลเฟต ( Sulfate ) เพราะจะทำให้ผิวหน้าของเราถูกดึงความชุ่มชื้นและดึงน้ำมันบนผิวหน้าออกมากจนเกินไป ทำให้ผิวของเราสูญเสียสมดุลนั่นเอง และอีกสิ่งที่สำคัญคือเลือกคลีนเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วยนะคะ ไม่งั้นสภาพผิวของเราจะมีปัญหาเอาได้นะคะ เช่น ผิวแห้งแต่ไปใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวมัน ก็จะทำให้ผิวหน้าของซิสแห้งตึงมากเกินไปนั่นเองค่ะ เสียเงินและยังทำให้ผิวหน้าเสียหายอีกด้วยน้า ต้องเลือกให้เหมาะกับเรา

สกินแคร์เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

สกินแคร์เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะทำให้สิวลดลงได้เช่นกันค่ะ อาจจะมีสกินแคร์บางตัวที่เหมาะกับสาว ๆ ที่เป็นสิว แต่เพื่อให้สิวลดน้อยลง แนะนำให้เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยนะคะ ซิสจะต้องเน้นสกินแคร์ที่มี Hyaluron เป็นส่วนผสมเพราะจะทำให้ผิวหน้าเราชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และพยายามเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบนหรือสารอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายด้วยน้า เพราะสารพวกนี้นอกจากจะทำลายผิวแล้วยังอาจจะทำให้เราแพ้จนมีสิวผุดขึ้นบนหน้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย แล้วหลังจากที่ลงสกินแคร์แล้ว หากมีสิวขึ้นแนะนำให้หายาแต้ม สิว มาโบกสิวไว้ด้วยน้า จะทำให้สิวยุบเร็วขึ้นและไม่ทิ้งรอย

ดื่มน้ำมาก ๆ

การดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นสิ่งที่ดีสุขภาพมาก ๆ เลยนะคะซิส ยิ่งถ้าเราดื่มน้ำวันละ 1.5 – 3 ลิตร หรือประมาณ 7 – 8 แก้วต่อวัน ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพของเราดีมากขึ้นไปอีก เนื่องจากร่างกายเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนมาก การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยเรื่องการขับถ่าย ปรับสมดุลในร่างกาย แล้วยังทำให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น แถมยังทำให้เราไม่หงุดหงิดง่ายอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเราขับถ่ายได้ปกติ มีสมดุลในร่างกาย และผิวชุ่มชื้นแล้ว ก็จะช่วยทำให้สิวเจ้าปัญหาลดน้อยลงตามไปด้วยนั่นเองค่ะ แนะนำว่าควรดื่มเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุดน้า ลดพวกน้ำหวาน น้ำอัดลม ชานมไข่มุกให้น้อยลงก็ช่วยให้สิวลดลงได้เช่นกันนะคะ นอกจากจะได้ทั้งสุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้ลดสิวบนใบหน้าเราด้วยน้า
เซฟตัวเอง ลดการติดเชื้อไวรัส จาก COVID-19

เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวจาก COVID-19 พร้อมไว้ไม่กังวล

แน่นอนว่าการออกจากบ้านคือความเสี่ยง ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวจาก COVID-19 ให้พร้อม ซึ่งหลายคนก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่ช่วยป้องกันสารคัดหลั่งจากผู้อื่นได้ เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮออล์ 70% ขึ้นไปเท่านั้น แต่เราอยากจะบอกว่าช่วงต้นเดือนเมษายนหน้าร้อนแบบนี้ เราก็ควรจะพกอุปกรณ์กันแดดอย่างร่มกัน UV แว่นกันแดด และทาครีมกันแดดเอาไว้ให้พร้อมด้วยอีกอย่างนึงก็จะเป็นการดี
ที่สำคัญนอกเหนือจากอุปกรณ์แล้ว ทุกคนก็ควรจะปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของตัวเราเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นล้างมือให้บ่อย (ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง) หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น ลดการเอามือไปสัมผัสกับใบหน้า เป็นต้น

อย่าลืมทำ Social Distancing ถึงจะห่างไกล แต่ปลอดภัยระหว่างกัน

ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะหาเราว่าเย็นชา เพราะตอนนี้ไม่ว่าใครก็ต้อง “ทิ้งระยะ” (Social Distancing) ให้ห่างกันเอาไว้ก่อน เพราะไวรัส COVID-19 นั้น จะติดต่อได้ผ่านสารคัดหลั่งที่ออกมาจากร่างกาย อย่างเช่น น้ำมูก เสมหะ และน้ำลายที่ไอจามออกมาในระยะ 1-2 เมตร ดังนั้นให้พยายามรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ ในสังคมให้มากกว่า 2-3 เมตรถ้าเป็นไปได้

ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงระบบขนส่งสาธารณะที่ทิ้งระยะห่างกับคนอื่นได้ยาก

สืบเนื่องจากการทำ Social Distance ในข้อที่สอง ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าหากเราเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักในช่วงนี้ เพราะการเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะอื่นๆ นั้น จะเป็นเรื่องยากในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการต้องอยู่ใกล้กับผู้อื่น หรือต้องสัมผัสกับอุปกรณ์สาธารณะอย่าง ราวจับ ห่วงจับ และเสาสำหรับยืน

เก็บประวัติการเดินทางของเราให้ดี เช็กความเสี่ยงย้อนหลังได้ทุกเวลา

นี่อาจเป็นเรื่องที่หลายคนไม่ได้ใส่ใจ แต่จะบอกว่าทุกครั้งที่คุณออกเดินทางไปไหนก็ตามในช่วงเวลาที่ไวรัส COVID-19 กำลังระบาดแบบนี้ การเก็บบันทึกประวัติการเดินทางเอาไว้ว่าตัวคุณได้มีการใช้เวลาไปกับสถานที่ใด หรือมีโอกาสเสี่ยงที่จะไปสัมผัสกับผู้คนในตำแหน่งใด จะมีความสำคัญมากสำหรับทั้งตัวของคุณเอง ที่สามารถเช็กย้อนหลังจากข่าวสารการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ว่าคุณพาตัวเองไปอยู่ ณ จุดเสี่ยงหรือเปล่า รวมถึงยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นที่สามารถเช็กตำแหน่งของคุณได้หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
*ซึ่งการเก็บประวัติการเดินทางนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย โดยเฉพาะคนที่ใช้งานแอปพลิเคชัน Google Map เป็นประจำ คุณก็สามารถเลือกให้ตัวแอปฯ เก็บข้อมูลการใช้งานเอาไว้ได้อย่างละเอียด และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เพียงเข้าไปที่เมนู Account Profile จากนั้นเลือก “ข้อมูลของคุณในแผนที่” และไปที่เมนู “ประวัติตำแหน่ง” เท่านี้คุณก็สามารถตรวจสอบสถานที่ย้อนหลังได้ทุกเมื่อ

ทำประกัน COVID-19 เตรียมไว้ให้พร้อมถ้าไม่ชัวร์ ไม่ต้องกลัวถ้าเข้ารักการรักษา

เพราะการเดินทางย่อมต้องมาพร้อมกับความเสี่ยง ถึงเราจะป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นการตัดสินใจทำประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมการรักษากรณีติดเชื้อไวรัส COVID-19 เอาไว้ก่อนถือเป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะแม้ว่าภาครัฐจะมีสวัสดิการด้านค่ารักษามอบให้กับทุกคน แต่หากมองว่าถ้าสถานการณ์เกิดวิกฤติจนทำให้โรงพยาบาลไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอขึ้นมา คุณก็ยังสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาจนเกินไป
การใส่แมสก์ทุกวัน เป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคบนผิวหน้า ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือสิวขึ้นได้ เพราะฉะนั้นต้องรักษาความสะอาดและดูแลผิวหน้าสม่ำเสมอสำหรับใครที่เป็นสิว ไม่ว่าจะเกิดจากการใส่แมสก์ หรือเพราะผิวโดนมลภาวะต่างๆ วิธีลดสิวจากหน้ากากอนามัย นอกจากจะช่วยลดสิวบางวิธียังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย วิธีกู้ผิว ผิวแห้ง วิธีนี้แล้วจะต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ให้มากเพื่อการขับถ่ายที่ดี และพักผ่อนให้เพียงพอ นอนวันละ 8 – 10 ชั่วโมง สามารถช่วยให้สิวของเราลดลงได้แล้ว แถมยังทำให้ผิวพรรณของซิสดูเปล่งปลั่งสดใสมากขึ้นอีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะช่วยซิสได้ไม่มากก็น้อย

เจลแต้มสิว กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com