รู้จักครีมกันแดด และข้อแนะนำ ให้เข้าใจประโยชน์มากขึ้น
ครีมกันแดด ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนและแสงแดดที่แรงของเมืองไทย ผิวของเราจึงได้รับการปกป้องผิวด้วยการทาครีมแดด แต่หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กันแดดอยู่บ้าง รู้จักครีมกันแดด และข้อแนะนำ ผลิตภัณฑ์กันแดดมาบอกต่อ เพื่อให้คุณได้เข้าใจและเพื่อการใช้ ครีมกันแดด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกครีมกันแดด – ให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า
การเลือกครีมกันแดควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ครีมกันแดดบางชนิดมีคุณสมบัติในการป้องกันเฉพาะรังสี UVB เท่านั้น ทำให้ผิวของเราไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
- ผิวมัน : เหมาะกับครีมกันแดดที่เนื้อบางเบา เป็นเนื้อน้ำที่ซึมเข้าผิวง่าย ไม่อุดตัน
- ผิวแห้ง : ควรเลือกครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีม จะทำให้หน้าไม่แห้งตึงและเป็นขุย
- ผิวแพ้ง่าย : เหมาะกับครีมกันแดดที่เป็นเนื้อบางเบา เป็นเนื้อเซรั่มหรือสเปรย์ เลือกค่า SPF สูงๆ เพราะผิวที่บอบบางมากจะมีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดมากกว่าผิวชนิดอื่น
ปริมาณ
กันแดด ควรทาให้ได้ปริมาณ 2 ข้อนิ้ว หรือประมาณเหรียญสิบ ซึ่งปริมาณนี้ก็เป็นเพียงปริมาณคร่าวๆ เนื่องจากรูปร่างใบหน้าของเราแต่ละคนไม่เท่ากัน ทำให้พื้นที่บนใบหน้าก็ไม่เท่ากันไปด้วย ให้ลองลดหรือเพิ่มตามความเหมาะสม เราอาจจะมองว่าต้องทาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? ที่ต้องทาเยอะขนาดนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าครีมกันแดดจะทำหน้าที่เหมือนผ้าคลุมใบหน้า ปกป้องเราจากแสงแดดได้ทั่วจริงๆ ลองคิดภาพดูว่า ถ้าผ้าที่คลุมบางมากๆ เราก็จะรู้สึกว่าแสบร้อนที่ผิว หรือการทาไม่ทั่วก็เหมือนกับผ้าของเราขาดเป็นรูๆ ทำให้ผิวเกิดจุดด่างดำ และไม่สม่ำเสมอกันนั่นเอง ดังนั้นเวลาทา ต้องแน่ในว่าเราได้ปาดครีมลงบนบริเวณนั้นจริงๆ ไม่ใช่แค่เบลนด์ครีมมาจากส่วนอื่น
ทาน้อยเกินไป = ไม่ได้ทา
การทาครีมกันแดดแบบบางๆ ปริมาณเท่าเม็ดไข่มุก พอให้รู้สึกว่าได้ทา ยังทำให้ SPF ของครีมกันแดดลดลงประมาณ 85-90% เลยค่ะ นั่นแปลว่าการทาครีมกันแดด SPF50 ก็อาจจะทำให้ปกป้องผิวของเราได้แค่ SPF5-7.5 เท่านั้น! แบบนี้ก็เหมือนไม่ได้ทาเลย
ทาเยอะเกินไป = หน้าวอก
สำหรับสาวๆ ที่ไม่ได้มีสีผิวที่ขาวมากๆ อาจจะเจอปัญหาว่า ทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมเป๊ะๆ แล้ว แต่ดันทำให้หน้าขาววอกจนออกจากบ้านไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าครีมกันแดดของเราเป็นแบบ Physical Sunscreen มีกมีส่วนผสมของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่ช่วยสะท้อนแสงยูวี ข้อดีคือทาปุ๊บออกจากบ้านได้เลย ไม่ต้องรอ และมีความเสถียรในการกันแดดสูง แต่ข้อเสียก็คือครีมกันแดดแบบนี้จะเคลือบอยู่บนชั้นผิว ทำให้ผิวของเราดูวอกหรือเกิดเป็นคราบขาว
หนทางที่ง่ายที่สุดก็คือการเลี่ยงไปทาครีมกันแดดแบบ Chemical แทน อาจจะต้องเผื่อเวลาในการออกแดดซัก 15-30 นาที แต่เนื่องจากสารกันแดดเป็นแบบซับแสงยูวี ทำให้ผิวไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบไว้ ไม่ทำให้เป็นคราบขาวๆแต่ข้อเสียก็คือกันแดดแบบนี้จะทำให้ผิวเกิดการอุดตันและระคายเคืองได้ง่ายกว่า
แต่จริงๆ ตอนนี้ครีมกันแดดแบบ Physical และ Chemical ก็ถูกพัฒนาไปมากแล้ว น้อยมากที่จะเกิดการทาปริมาณมากๆ จนทำให้ผิวขาวจนวอก หรือเกิดอาการแพ้
ประเภทสารกันแดด
- ครีมกันแดดชนิดเคมี (Chemical sunscreen)
- ครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical sunscreen)
- ครีมกันแดดชนิดผสม (Chemical-Physical sunscreen)
-
ครีมกันแดดชนิดเคมี (Chemical sunscreen)
กันแดดในกลุ่มนี้จะทำหน้าที่ป้องกันรังสี UV โดยการดูดซับรังสีไว้ไม่ให้สามารถทะลุผ่านเข้ามาทำอันตรายต่อผิวหนัง
-
- ข้อดี สารกลุ่มนี้คือสามารถดูดกลืนรังสีไว้ได้ทั้งหมดทำให้ป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี
- ข้อเสีย สารกันแดดในกลุ่มนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย และต้องทาครีมทิ้งไว้ 30 นาทีก่อนออกแดดเพื่อให้สารออกฤทธิ์ทำงาน และต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ล้างทำความสะอาดยากกว่าครีมกันแดดชนิดกายภาพ ตัวอย่างสารกลุ่มนี้ที่พบบ่อยจะเป็น 2-Ethylhexylmethoxycinnamate (Parsol MCX) Benzophenone-3 (Oxybenzone) และ Butylmethoxydibenzoylmethane (Avobenzone)
-
ครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical sunscreen)
สารกันแดดกลุ่มนี้จะเคลือบอยู่บนผิวหนังแล้วทำการสะท้อนหรือกระจายรังสี UV จึงทำให้สามารถป้องกันรังสี UV ได้
-
- ข้อดี มีความปลอดภัยสูงกว่าและมีโอกาสเกิดการแพ้ได้น้อยกว่าครีมกันแดดชนิดเคมีเนื่องจากไม่ถูกดูดซึมผ่านผิวหนัง อีกทั้งยังสามารถออกแดดได้ทันทีหลังทา โดยไม่ต้องทาซ้ำถ้าเนื้อครีมไม่หลุดจากผิว และยังล้างทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
- ข้อเสีย สารกันแดดกลุ่มนี้จะมีขนาดอนุภาคใหญ่ เนื้อครีมมีความหนา ไม่โปร่งแสง เวลาทาลงบนผิวอาจทำให้แลดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดอาการวอกได้ ดังนั้นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มนี้มักนิยมใช้สารที่มีอนุภาคขนาดเล็ก หรือที่รู้จักกันว่า micronized form เพื่อไม่ให้เกิดปื้นขาวและสามารถกระจายตัวบนผิวได้ง่าย การทำให้อยู่ในรูป micronized form ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการสะท้อนหรือกระจายรังสี UV ได้อีกด้วย ตัวอย่างของสารกลุ่มนี้ได้แก่ Zinc oxide และ Titanium dioxide
-
ครีมกันแดดชนิดผสม (Chemical-Physical sunscreen)
สารกลุ่มนี้ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นสารกันแดดที่ทำหน้าที่ทั้งสะท้อนและดูดซับรังสียูวีได้ทั้งสองอย่างในตัวเอง ดังนั้น จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมข้อดี และลดข้อด้อยของครีมกันแดดทั้งสองประเภทข้างต้น ซึ่งปัจจุบัน ครีมกันแดดที่วางจำหน่ายส่วนมากจะเป็นชนิดนี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
- ป้องกันแสงแดดที่ดีต้องมีค่า SPF และค่า PA เท่าไหร่
ค่า SPF และค่า PA ในครีมป้องกันแสงที่ต้องใช้ควรพิจารณาควบคู่ไปกับสภาพอากาศที่เราต้องเจอในวันนั้น ๆ เช่น หากวันนั้นเราจำเป็นต้องออกแดดจัดหรือต้องไปเที่ยวทะเลที่มีแดดจัดมาก อาจต้องหาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และค่า PA สูง ๆ เช่น SPF 50, PA ++++ เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด
แต่หากวันไหนเราอยู่แต่ในบ้าน อาคาร หรือทำงานในที่ร่ม ที่ไม่ค่อยสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ก็อาจจะใช้ครีมกันแดดที่มี ค่า SPF 15 ถึง 30 และค่า PA + ถึง +++ ก็ได้ค่ะ เพื่อลดความเหนียวและความเข้มข้นของครีมกันแดดลง ผิวจะได้รู้สึกสบายขึ้นและไม่หนักหน้า
- ในตอนเช้า เราควรทาครีม กันแดด ในขั้นตอนไหน
เราจะทาครีมกันแดดหลังขั้นตอนการบำรุงผิว เมื่อเราตื่นนอน อาบน้ำและล้างหน้าเสร็จแล้ว เราก็จะทาครีมบำรุงผิวก่อน จากนั้นก็จะทาครีมกันแดดทับเป็นตัวสุดท้าย และค่อยแต่งหน้าตาม เหตุผลที่ต้องทาครีมกันแดดเป็นไอเท็มสุดท้ายของการบำรุงผิว คือ การทำงานของครีมกันแดดที่จะเคลือบอยู่บนผิวเพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะให้กับผิว ถ้าทาครีมกันแดดก่อน ครีมบำรุงก็จะไม่สามารถซึมลงสู่ผิวได้
- การทาครีมกันแดดระหว่างวันจำเป็นไหม
การทาครีมกันแดดระหว่างวันจำเป็นมากค่ะ เพราะ เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดไประยะเวลาหนึ่ง ครีมจะเริ่มทำงานได้น้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพในการกันแดดลดลงไปด้วย ดังนั้นเราอาจต้องทาครีมกันแดดระหว่างวันเพื่อให้การกันแดดเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
- ทาครีมกันแดดทับเครื่องสำอางได้ไหม
ครีมกันแดดสามารถทาทับเครื่องสำอางได้ แต่อาจต้องเลือกครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อไม่ให้เป็นคราบและไม่ให้เครื่องสำอางที่อยู่บนหน้าโดนลบหรือเปื้อนได้ ซึ่งก่อนใช้ครีมกันแดดที่ทาหลังแต่งหน้าได้ อาจใช้กระดาษซับมันหรือทิชชูซับน้ำมันส่วนเกินบนผิวออกก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันและเกิดสิว
ทาครีมกันแดดระหว่างวัน
- อยู่ในบ้าน หรือ ออฟฟิศ เราควรทาครีมกันแดดไหม
อยู่ในบ้าน หรือ ออฟฟิศ จำเป็นต้องทาครีมกันแดด เนื่องจากอันตรายจากแสงแดดไม่ได้อยู่แค่ที่ความร้อนเท่านั้น แต่ยังมีรังสียูวีเอและยูวีบีที่อยู่ในแสงแดดด้วย ซึ่งเราอาจจะมองไม่เห็น แต่รังสีเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วบริเวณที่แสงแดดไปถึง แม้แต่ในที่ร่ม ถ้ามีช่อง ประตู หรือหน้าต่างที่แสงเข้าผ่านได้ ก็มีรังสีเข้าถึงได้เช่นกัน แม้จะไม่มีอากาศร้อนก็ตาม
- ผิวมัน ควรใช้ครีม กันแดด แบบไหน
ครีมกันแดด ผิวมันควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่เหนียว และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะเหมาะกับผิวหน้ามันมากที่สุด ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ครีม กันแดด ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอื่นๆได้ ที่ไม่ใช่น้ำมัน
- ทาครีมกันแดดแล้วเป็นสิว ต้องแก้ไขอย่างไร ทาครีมกันแดดแล้วเป็นสิว เกิดได้หลายสาเหตุ
- ล้างครีมกันแดดออกไปหมดจนทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิว
- ใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก และแพ้สารที่อยู่ในครีมกันแดด ซึ่งมีวิธีการแก้ไขสามารถทำได้ด้วย
- เช็ดครีมกันแดดออกด้วยคลีนซิ่งก่อน
- เลือกใช้ครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันและหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอมและพาราเบน
- สวมหน้ากากอนามัยออกไปข้างนอกแล้ว ต้องทาครีมกันแดดไหม
ถึงจะสวมหน้ากากอนามัย แต่ผิวอาจสัมผัสโดนรังสียูวีได้เสมอ ดังนั้น เราต้องทาผลิตภัณฑ์กันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ ซึ่งเราอาจกางร่มหรือใส่หมวกเพิ่มด้วยเพื่อให้การปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวีเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นป้องกันผิวจากแสงแดด
- ครีมกันแดดควรเช็ดออกด้วยคลีนซิ่งก่อนเสมอใช่ไหม
การล้างครีมกันแดด ควรเช็ดออกด้วยคลีนซิ่งก่อนทุกครั้ง เพราะครีมกันแดดมีสารกันแดดเป็นส่วนประกอบ สารกันแดดมักจะเคลือบอยู่บนผิวหน้า ไม่ได้ซึมลึกลงสู่ผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการอุดตันและเกิดสิวได้หากทำความสะอาดออกไม่หมด
- ถ้าไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ จะเกิดผลเสียอะไรกับผิวหน้าบ้าง
หากผิวต้องเจอแดดและรังสียูวีอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ได้รับการปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดเลย อาจส่งผลให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ ผิวเสีย ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และฝ้า
ในบางรายถ้าเจอแดดจัดเป็นประจำ อาจทำให้เกิดปัญหาผิวอย่างรุนแรง เช่น ผิวไหม้ ผิวอักเสบ และอาจรุนแรงไปถึงมะเร็งผิวหนังได้เลยทีเดียว
ดังนั้นเราควรต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก่อนออกจากบ้าน หรือ หากอยู่ในบ้าน ทำงานในออฟฟิศและในอาคารที่ร่มอาจใช้ครีมกันแดดแบบเบา ๆ โดยมีค่า SPF และค่า PA ที่ไม่ต้องมาก ควบคุมสิว ให้อยู่หมัด เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา
สเ้ปรย์กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูล และเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/
website : Kandabeauty.com